เที่ยวมะละแหม่งด้วยตัวเอง

ผม mr.hotsia เที่ยวสะใจ นั่งเขียนเรื่องนี้ขณะนั่งอยู่ที่ The Breeze guesthouse ในเมืองมะละแหม่ง รัฐมอญ ประเทศพม่า ผมนั่งเขียนเรื่องไปนั่งมองแม่น้ำสาละวินไปด้วย นั่งคิดว่าแม่น้ำนี้ไหลผ่านเป็นชายแดนไทยพม่าส่วนหนึ่งแล้วก็มาผ่านรัฐกะเหรี่ยง แล้วมาถึงมะละแหม่งปลายทางก่อนลงทะเล เมืองมะละแหม่งเป็นเมืองที่คนไทยรู้จักดี จากเพลงของจรัญ มโนเพชร และจากเมืองเมาะตะมะในตำนาน เมืองนี้มีวัฒนธรรมมอญดั่งเดิม มีที่ท่องเที่ยวพวกวัดวา วิถีชีวิตคนที่น่าน่าสนใจ ผมมาพักที่มะละแหม่งรวม 6 คืน เรียกว่าใช้ชีวิตที่นี่แบบเต็มๆ เลยครับ

มะละแหม่งเมืองในตำนานรักข้ามชาติ จากตำนานล้านนาและเพลงมะเมี๊ยะที่ดังมาก ผมเองมาเที่ยวที่เมืองนี้ก็เหมือนมาเที่ยวเมืองอื่น หากมีอะไรที่เกี่ยวของกับเมืองไทยผมก็มาหาข้อมูลตามหา เรื่องมะเมี๊ยะก็เป็นเรื่องที่ผมมาตามหาเช่นกัน ผมเริ่มจากเจดีย์ไจ๊ตะหลั่นที่ตำนานบอกว่าสาบานรักกัน และตามไปวัดตุ๊จะมารานะที่ด้านล่างเจดีย์นี้ ก่อนตามไปวัดที่เกี่ยวข้องที่สามารถบวชชีได้ในสมัยนั้น ในที่สุดก็ได้พบกับแม่ชีที่รู้จักมะเมี๊ยะ เขาเป็นแม่ชีที่ได้รับคำบอกเรามาจากจากเพื่อนมะเมี๊ยะอีกที ผมได้พบรูปและได้คุยเรื่องราวต่าง มีแม่ชีมะเมี๊ยะที่นี่จริง มีรูปด้วย แต่จะเป็นคนเดียวกับตำนานหรือไม่คลิกอ่านข้อมูลมะเมี๊ยะเพิ่มเติมที่นี่ครับ

มะละแหม่งยังเป็นเมืองหลวงของรัฐมอญ ประเทศพม่า มีพรมแดนติดไทยที่ด่านเจดีย์สามองค์ ไทยและพม่ามรพรมแดนติดกัน 3 รัฐ 1 เขต มีบนสุดรัฐฉาน ไทยใหญ่ ถัดลงมาคือรัฐกะเหรี่ยง ถัดลงไปคือรัฐมอญ และใต้สุดคือเขตตะนาวศรี พม่ามี 7 เขต 7 รัฐ รัฐมอญนี้ใหญ่นะครับ ยาวอ้อมมาด้านหลังของรัฐกะเหรี่ยงด้วย ในรัฐมอญมีพระธาตุอินทร์แขวนที่คนไทยรู้จักกันดี ส่วนตรงแม่สอดตรงข้ามกับเมืองเมียวดี ขึ้นกับรัฐกะเหรี่ยง ไม่ใช่รัฐมอญ แต่สามารถเดินทางต่อไปรัฐมอญได้ ที่รัฐมอญนอกจากคนมอญแล้วมีคนเชื้อชาติอื่นด้วย ในตัวเมืองมะละแหม่งมีคนพม่ามาอยู่ ส่วนคนมอญส่วนใหญ่อยู่ที่เกาะมอญตอนล่างแม่น้ำสาละวิน และเมืองมูดน (MUDON) หากต้องการวิถีชีวิตคนมอญต้องออกนอกเมืองหน่อยครับ

การเดินทางมายังมะละแหม่ง รัฐมอญ ผมแนะนำที่ง่ายสุดและสะดวกสุด เมื่อเรามีหนังสือเดินทาง (passport) และวีซ่า (VISA) ด่านที่สะดวกสุดทางบกผมแนะนำด่านแม่สอด ที่ตรงข้ามกับเมืองเมียวดี ประเทศพม่า ผมได้รับคำยืนยันกับ ต.ม. แม่สอดว่าสามารถเดินทางผ่านไปพม่าและออกทางอื่นได้ ส่วนทางอากาศก็บินกับสายการบินนกแอร์จากแม่สอดมายังมะละแหม่งได้เลย ค่าตั๋ว 1500 บาท นอกจากนั้นอาจต่อรถมาจากย่างกุ้ง หรือทวายก็ได้ นั่งรถนอน 1 คืนถึงครับ สำหรับทางเรือสามารถเดินทางจากเมืองพะอัน เมืองหลวงของรัฐกะเหรี่ยง โดยจะมีเรือออกจากนั่นใช้เวลาเดินทาง 2 ชั่วโมง ค่าเรือ 150 บาท ถามหาเรือได้จากซอร์บาร์เทอร์เกสเฮ้าส์ (soe brother’s guest house) เรือไม่มีทุกวันขึ้นกับว่ามีนักท่องเที่ยวหรือไม่ มะละแหม่งสำหรับผมน่าอยู่เดินทางสะดวก ค่ามอเตอร์ไซค์ในเมืองก็ไม่แพง 20-30 บาท เท่านั้น เป็นเมืองที่น่าเที่ยวและควรรีบด้วยก่อนที่อะไรจะเปลี่ยนไปเยอะ

ที่พักในเมืองมะละแหม่ง ผมแนะนำ The Breeze Guest house ออกเสียงว่าเดอาะบีชซี่เกสเฮ้าส์ ที่นี่ราคาถูก ผมพักคืนละ 7,000 จ๊าด หรือประมาณ 210 บาท ห้องน้ำรวม ห้องน้ำแบบชักโครกนั่งสบาย น้ำแรงใช้ได้ เขามีห้องน้ำในตัวด้วย และพักแบบสองคนก็มี 14 USD ที่นี่มีอินเตอร์เน็ตฟรีวายไฟ แต่ใช้ไม่ได้ทุกห้อง โรงแรมตั้งอยู่ริมแม่น้ำสาละวิน เดินไปตลาดโต้รุ่งมะละแหม่งใกล้ๆ และดินไปตลาดเช้าได้ด้วย ตอนผมนั่งมีคนไทย walk in เข้าแต่ที่พักเต็ม แนะนำให้จองโรงแรมผ่านอินเตอร์เน็ตมาก่อนอย่างน้อยในคืนแรกจะได้มีที่พักแน่นอนไม่ต้องเดินหา ส่วนคืนต่อไปจะพักที่ไหนก็เพิ่มได้ มีโรงแรมแบบถูกที่ผมเห็นสองโรงแรม ที่เหลือเป็นแบบโรงแรมสองดาวขึ้น ราคาก็ 40 USD ประมาณนั้น หากท่านมีเงินก็จองแบบดีไปเลยครับ มาเที่ยวทั้งทีพักในสบายหน่อย เมืองเราจะไปเมืองอื่นต่อลองให้ที่พักที่เราอยู่แนะนำและโทรจองให้ หลายคนทำแบบนี้มีที่พักแน่นอน เกสเฮ้าส์เขามีดิวกันเองนะนำที่พักให้กันและกัน

ตัวเมืองมะละแหม่งไม่ใหญ่มาก การเดินทางไปไหนก็มีมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ดังนั้นขอให้เลือกพักโรงแรมในตัวเมืองก็พอแล้ว ดูจากแผนที่เอาครับ อีกอย่างที่มะละแหม่งหรือเมืองทางใต้ของพม่า ส่วนใหญ่มีคนพูดภาษาไทยได้ ดังนั้นไม่มีปัญหาในการเที่ยวของคนไทยแม้ไม่พูดภาษาอังกฤษครับ ผมเจอคนไทยมาพักที่เดียวกันพูดไทยอย่างเดียวก็เที่ยวได้สบายครับ ราคาโรงแรมในมะละแหม่งถูกกว่าย่างกุ้ง แต่โดยรวมแพงกว่าเวียดนาม โรงแรมในมะละแหม่งที่ผมพัก (The Breeze Guest house ออกเสียงว่าเดอาะบีชซี่เกสเฮ้าส์) มีอาหารเช้าให้ด้วย มองลงไปเจอแม่น้ำสาละวินด้วย

อาหารการกินของชาวมอญมะละแหม่ง เป็นอาหารแบบชาวพม่าทั่วไป ที่มีเป็นหม้อตักใส่ถ้วยและมีน้ำพริกต่างๆ ให้ นี่คืออาหารที่เขากินกัน แต่ที่ผมเห็นในเมืองนี้มากกว่าเมืองอื่นคือที่นี่มีร้านอาหารจีนด้วย มีอาหารมะละแหม่งปนด้วย ผมสั่งไก่ทอดแบบมะละแหม่งมากินอร่อยมาก ข้าวผัดก็อร่อย ร้านที่ผมโปรดอยู่เดินไปทางขวามือจากที่ผมพักอยู่สัก 150 เมตร ที่มะละแหม่งมีไชน่าทาร์วด้วยครับ มีคนพม่าและเคยอยู่ไทยมาเปิดร้านอาหารไทยอร่อยๆสี่ห้าร้าน อยากกินผัดกระเพรามาเมืองนี้ไม่ผิดหวัง โดยสรุปมื้อเช้ากินอาหารโรงแรม มื้อเที่ยงกินร้านอาหารจีนหรืออาหารพม่า ส่วนมื้อเย็นมื้อมืดเดินทางหน้าโรงแรมไปทางซ้าย 200 เมตร เป็นตลาดโต้รุ่งมะละแหม่ง จริงๆไม่โต้รุ่งครับแค่สี่ทุ่ม ตรงนั้นมีร้านข้าวผัดกุ้งอร่อยมาก ไม่แพง นั่งกินริมแม่น้ำสาละวินลมพักเย็นๆ อร่อยสะใจ mr.hotsia มากครับ

ข้อควรระวังในการเที่ยวมะละแหม่งนะครับ คนที่นี่พูดไทยได้หลายคนเพราะเคยทำงานในเมืองไทย บางคนก็มีประสบการณ์ที่ดีในเมืองไทย บางคืนก็ไม่ดี การจะพูดภาษาไทยบางที่ทำให้เขารู้ว่าเราเป็นคนไทยบางครั้งก็ไม่ปลอดภัย ผมเจอมาแล้วในตลาดโต้รุ่ง พอรู้เป็นคนไทยขี้เมาก็มาคุยเลยและก็กวนเสียด้วย นี่คือข้อควรระวังอย่างแรก อย่างที่สองหากพักกะโรงแรมควรใช้มอเตอร์ไซค์รับจ้างที่โรงแรมแนะนำเพราะอย่างน้อยไม่เมา ผมเคยแล้วเมาๆ บางครั้งอันตรายสำหรับเราครับ อย่างสุดท้ายเหมือนกับทุกเมืองทั่วโลกมะละแหม่งก็ด้วยคือ ไม่ควรไปทีไม่ควรไปในเวลาที่ไม่ควรไปครับ

ที่เที่ยวในมะละแหม่งอันดับหนึ่งที่ผมแนะนำคือเจดีย์ไจ๊ตะหลั่น หรือเจดีย์สยามพ่าย เจดีย์นี้สวยและเป็นจุดดูอาทิตย์ขึ้นและตกของมะละแหม่งด้วย อันดับที่สองคือการให้มอเตอร์พาไปเที่ยวสักครึ่งวันไปเมืองมูดน (Mudon) เป็นเมืองคนมอญอยู่เยอะ ที่นั่นมีเจดีย์และพระนอนที่ยาวที่สุดของชาวมอญที่ยังสร้างไม่เสร็จ อันดับสามคือเดินเล่นในเมือง ที่สำคัญสำหรับคนสนใจเรื่องมะเมี๊ยะอาจไปวัดเดียวกับที่ผมไปหาข้อมูลมะเมี๊ยะ ไปดูว่าสมัยก่อนแม่ชีมะเมี๊ยะเป็นอยู่อย่างไร ไปดูรูปมะเมี๊ยะสมัยเป็นสาวที่วัดนี้ อ่านเรื่องมะเมี๊ยะและดูวัดที่จะไปเที่ยวคลิกที่นี่ครับ อีกอย่างคือไปเมืองเมาะตะมะ ข้ามแม่น้ำสาละวินไปมีสะพานแล้วให้มอเตอร์ไซค์ไปส่งและพาเที่ยว ขากลับแวะเที่ยวแชมพูไอล์แลนด์ มีบ่อน้ำศักดิ์สิทธ์ที่พญานาคปกปักรักษา เอามากระผมรดหัวจะดีมาก กษัตริย์ราชินีเราก็มาแล้วครับที่นี่ คนพาไปเขาบอกว่าอย่างนั้นครับ

นอกเหนือจากการท่องเที่ยวกิจกรรมที่ผมแนะนำคือการเดินตลาดเช้า ตลาดมีสีสันใช้ได้ไปดูปลาแม่น้ำสาละวินกันว่าใหญ่เท่าที่แม่สะเรียงไหม อีกอย่างคือเดินเล่นชมวิถีชีวิตของชาวมะละแหม่ง เดินเล่นริมแม่น้ำสาละวิน ส่วนเรื่องนวดแบบมอญมะละแหม่งคล้ายไทยผมลองไปนวดที่โรงแรมสาละวิน เป็นห้องรวมนวดดีครับ ร้านนวดที่มะละแหม่งเขาว่ามีสามสี่ร้าน ที่ไม่น่าพลาดเลยคือไปชมอาทิตย์ขึ้นและอาทิตย์ตกที่เจดีย์ไจ๊ตะหลั่น หากสนใจมะเมี๊ยะก็ไปวัดตามที่ผมบอกไปแล้วครับ

เรื่องอินเตอร์เน็ตในพม่ายังไม่เสถียรเท่าไทย ช้าเร็วไม่ว่ากันแต่มันใช้ได้บ้างไม่ได้บ้าง ที่มะละแหม่งผมพักหลายคืนมีหลุดไปหลายชั่วโมงบางทีเป็นวัน แต่ยังดีกว่าที่พะอันที่พักไม่มีอินเตอร์เน็ต ร้านเน็ตเน็ตก็ไม่ดี ไฟฟ้าในมะละแหม่งมีดับได้เป็นเรื่องปกติ แต่โรงแรมเขามีที่ปั่นไฟสำรองกันไม่ต้องห่วง

ความประทับใจของผม mr.hotsia ในการเที่ยวมะละแหม่งครั้งนี้คือการได้ตามหามะเมี๊ยะจนเจอวัดที่บวช คือวัดเคมาติริ ได้ฟังเรื่องราวของแม่ชีมะเมี๊ยะในมุมของชาวมะละแหม่ง ได้เห็นรูปมะเมี๊ยะสมัยยังสาว ผมได้ขยายรูปมอบให้ทางวัดไว้ด้วย พระอาทิตย์ตกดินที่เจดีย์ไจ๊ตะหลั่นสวยงามเหลือเกิน ผมนั่งดูอาทิตย์ตกดินที่นี่หลายวัน หวนนึกถึงครั้งหนึ่งคงมีหนุ่มสาวมาสาบานรักกันและก็ชมอาทิตย์ตกดินด้วยกัน นั่งชมอาทิตย์ตกนึกถึงมะเมี๊ยะมองแม่น้ำสาละวิน mr.hotsia ประทับใจมะละแหม่งครับ mr.hotsia 26 ตุลาคม 2556