เที่ยวจำปาสัก

เที่ยวจำปาสัก
ตอนที่ผมเขียนเรื่องเที่ยวจำปาสักนี้ ผมนั่งอยู่ที่เรือนพักสายทองจำปาสักอยู่ริมแม่น้ำโขง แม่น้ำโขงช่วงนี้กว้างมากๆ มีดอนตรงกลางเรียกว่า “ดอนแดง” จำปาสักมีที่ท่องเที่ยวที่คนไทยรู้จักกันดีคือปราสาทวัดพูมรดกโลกของลาวต่อจากหลวงพระบาง แต่จำปาสักกลับเป็นเมืองที่เงียบๆ เพราะคนไทยที่มาเที่ยวแค่ผ่านจำปาสักไปเที่ยววัดพูแล้วไปนอนที่ปากเซ เพราะว่าห่างกันแค่ 30 กิโลเมตรเท่านั้น ยิ่งถนนที่ตัดมาจากทางปากเซก่อนข้ามสะพานที่มาจากช่องแม็ก(ด่านวังเต่าของลาว) การมาเที่ยววัดพูจะไม่ผ่านตัวเมืองจำปาสักอีกเลย ไม่ต้องข้ามเรือ เพราะถนนตัดเข้าหาวัดพูโดยตรง
คนจำปาสักก็เริ่มคิดเหมือนกันว่าหากถนนเสร็จแล้วในปี 2554 จะมีคนมาเที่ยวเมืองจำปาสักไหม ผมไปตีแบ็ตกับคนจำปาสักแล้วก็รับรับรู้ความรู้สึกตรงนี้ ผมจึงคาดการณ์ว่าในช่วงแรกที่คนไทยเที่ยวโดยใช้ทัวร์ก็อาจกระทบแต่ระยะยาวแล้วคนมีแนวโน้มเที่ยวด้วยตัวเองมากขึ้น หรือผมเรียกว่าการท่องเที่ยวแบบอิสระ ซึ่งไม่ได้หมายถึงแบ๊กแพ็กเท่านั้น แต่หมายถึงท่องเที่ยวทุกอย่างที่ไม่ได้ซื้อทัวร์มาเที่ยว

ดังนี้ผมจึงต้องเขียนเรื่องนี้ให้เพื่อนๆสามารถมาเที่ยวด้วยตัวเองได้ซึ่งการเดินทางมาเที่ยวจำปาสักและวัดพูสามารมาเที่ยวด้วยตัวเองง่ายมากๆครับ (อ่านเรื่องการเดินทางมาเที่ยววัดพูจำปาสักคลิกที่นี่) เพราะว่าการท่องเที่ยวลาวให้สนุกต้องเที่ยวแบบอิสระครับ จะนอนที่ไหนกี่วันกี่คืน กินอะไรอย่างไรก็ได้ จะขับรถมาเที่ยวเองก็มารถประจำทางก็ได้หมด แค่มีหนังสือเดินทางหรือ Passport ก็อยู่ลาวได้ 30 วันโดยไม่ต้องใช้วีซ่าครับ

จำปาสักเป็นเมืองเก่าก่อนที่จะไปสร้างเมืองใหม่ที่ปากเซ เก่าขนาดมีทางเดินทางปราสาทวัดพูไปนครวัดได้ในโบราณ ตอนนี้เขากำลังศึกษาและทำเส้นทางตรงนี้กันอยู่ครับ บ้านเรือนของจำปาสักจึงดูเก่าขลัง ชาวจำปาสักไม่ค่อยคุ้นกับนักท่องเที่ยวคนไทยนัก เพราะคนไทยไม่ได้แวะที่นี่แค่ไปวัดพูแล้วกลับอย่างที่บอกไปแล้ว การมาเที่ยวแบบอิสระที่นี่จึงเป็นอะไรที่น่าสนใจมาก เพราะคนจะเป็นกันเองและยังไม่มีอะไรที่เปลี่ยนไปจากการที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว

ในเมืองจำปาสักมีถนนสายหลักที่เดินเล่นเรียบไปตามแม่น้ำโขงหลายร้อยเมตร จำปาสักไม่มีตลาดมีแต่รถเข็น mobile market ที่ผมถ่ายรูปมาให้ดู ดังนั้นยามเช้าจึงครึกครื้นเพราะจะมีรถเข็นขายของ คนเดินขายปลาตามบ้านริมทาง มีพระบิณฑบาตยามเช้าด้วย จำปาสักยามเช้าเป็นช่วงที่น่าเดินเล่นมากที่สุดครับ

ในการมาเที่ยวจำปาสักนั้นผมแนะนำให้พักที่พักที่ติดแม่น้ำโขงเท่านั้น เพราะว่าพระอาทิตย์ขึ้นของที่เมืองจำปาสักนั้นสวยงามจริงๆ อย่างผมพักที่เรือนพักสายทอง ยามเช้าตอนพระอาทิตย์ขึ้นงามจนนักท่องเที่ยวญี่ปุ่นที่ผมเจอตัดสินใจพักต่ออีกหลายคืน แม่น้ำโขงที่กว้างมาก ฝั่งตรงข้ามมีมีอะไรบังดวงอาทิตย์ ทำให้กลายเป็นเสน่ห์ของจำปาสักที่ไม่เหมือนใคร มาเที่ยวไม่ควรพลาดตื่นเช้ามาชมครับ

เรื่องอาหารการกินของที่นี่ผมแนะนำให้ตื่นเช้าๆเดินไปตามถนนจะมีร้านกาแฟลาวของแท้ดั้งเดิมหลายร้าน มีทั้งเฝอและกาแฟยามเช้าขาย สำหรับกาแฟของลาวก็เป็นกาแฟจากปากซอง ของแขวงจำปาสักที่อร่อยมากคนลาวรู้ดี ผมอยู่นี่จนติดกาแฟลาวไปแล้ว กาแฟที่ผมกินประจำคือกาแฟดำลาวไม่ใส่น้ำตาลและนม เป็นกาแฟร้อนช่วงเช้าๆ จิบไปดูอาทิตย์ขึ้นไป ส่วนบ่ายๆเป็นกาแฟเย็นครับ ส่วนอาหารมื้ออื่นๆก็เดินเล่นดูมีร้านหลายร้านขายราคาอยู่ที่ 15 พัน เป็นข้าวราดนะครับ

ในจำปาสักมีธนาคารให้แลกเงินได้ เบิกเงินจากบัตรเครดิตได้ บัตรเดรบิตที่ไม่มีชื่อและเป็นวีซ่าในตัวเบิกไม้ได้ครับต้องกดเงินมาจากปากเซให้พอเลย ในจำปาสักมีรถมอเตอร์ไซต์เช่าวันละ 80 พันกีบ จักรยานวันละ 10 พันกีบ หากจะไปวัดภูแล้วใช้จักรยานก็ได้ออกกำลังกายดี ใช้เวลาประมาณ 1 ชั่วโมงถึงวัดพูครับ

เรื่องที่พักจำปาสักมีที่พักเพียงพอให้นักท่องเที่ยวโดยไม่ต้องจองล่วงหน้าเลย ยกเว้นที่มีงานบุญวัดพูช่วงเดือนกุมภาพันธ์ แต่ก็ไปกางเต้นนอนที่วัดพูได้เขาเปิดให้นอนที่นั่นครับ โรงแรมในจำปาสักมีตั้งแต่ราคา 120 บาทต่อคืนห้องพัดลม ไปจนถึง 6-700 บาทห้องแอร์ ส่วนผมพักห้องพัดลมคืนละ 120 บาทก็ ok แล้ว ไม่ต้องมี wifi เพราะว่าลาวเขามี 3G ทั่วประเทศแล้ว หากมาในหน้าหนาวของไทยไม่ต้องนอนห้องแอร์ครับที่นี่เย็นสบายดี mr.hotsia ธันวาคม 2553