ม่อนแจ่ม

ผมเห็นเพื่อนๆในเฟสบุ๊คหลายคนคุยเรื่อง “ม่อนแจ่ม” ที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ของจังหวัดเชียงใหม่ที่มาแรงมากๆ จนใครๆก็ต้องมาให้ได้ในหนาวนี้ Mr.Hotsia เลยเดินทางจากบางบ่อหลบน้ำท่วมมาเที่ยวภาคเหนือและเที่ยวม่อนแจ่ม ในกลางเดือนตุลาคม 2554 แล้วม่อนแจ่มก็ไม่ทำให้ผมผิดหวังเลยจริงๆม่อนแจ่มดูไปก็คล้ายๆภูทับเบิกที่เป็นจุดชมวิวอากาศเย็นสบายตลอดปี มีจุดกางเต๊นท์ มีไร่ผักกาดแก้ว(ผักสลัด)ของชาวม้ง ม่อนแจ่มยังมีไร่สตรอเบอร์รี่อีกด้วย จุดชมวิวของม่อนแจ่มเด่นทั้งอาทิตย์ขึ้นและอาทิตย์ตกในม่อนเดียวกัน นับเป็นที่ท่องเที่ยววิวสวยที่หาได้ยากแห่งหนึ่งครับ

การเดินทางทางมาม่อนแจ่ม ให้ใช้เส้นทางจากเชียงใหม่มาแม่ริม แล้วเลี้ยวซ้ายไปทางสะเมิงประมาณ 14 กิโล จะมีทางเลี้ยวขวาขึ้นดอยไปอีก 5 กิโลเมตร อย่าลืมเติมน้ำมันรถมาให้เรียบร้อย เพราะน้ำมันข้างบนจะแพงกว่าข้างล่าง ปั้มอยู่แถวโป่งแยงครับ อ้อและอย่าสับสนระหว่างม่อนแจ่มและแม่แจ่มนะ มันคนละที่กันเลย แม่แจ่มเป็นอำเภอหนึ่งของเชียงใหม่ อยู่หลังดอยอินทนนท์ ส่วนม่อนแจ่มเป็นโครงการหลวงอยู่แม่ริมครับ

ม่อนแจ่มมีร้านอาหารที่ชาวบ้านเขาขายกันเอง จัดระบบกันเอง ตลอดทั้งวันมีนักท่องเที่ยวไปชมวิวทานอาหาร เพราะอยู่ห่างจากเชียงใหม่แค่ 40 นาที ผมแนะนำให้มาช่วงบ่าย เพราะเงาอาทิตย์จะคลุมที่นั่งทานอาหาร นั่งชมวิวไปด้วย หลายคนสั่งเบียร์ดื่นจิบพร้อมบรรยากาศที่หาไม่ได้ใน 40 นาทีจากเชียงใหม่ บางคนก็เอาไวน์มาเปิด(ค่าเปิด 100 บาท) ม่อนแจ่มซึ่งพึ่งเปิดตัวไม่นานจึงเป็นที่ท่องเที่ยวที่ดังสุดๆในปี 2554 ครับ Mr.Hotsia ตุลาคม 2554

ข้อมูลเพิ่มเติมจาก http://www.maerimtourist.com ดอยม่อนแจ่ม คือสถานที่พักแห่งใหม่ของโครงการหลวง เพิ่งเปิดตัวไม่เมื่อปลายปี 2552 เป็นพื้นที่บนสันเขาในระดับความสูงประมาณ1,350 เมตรจากระดับน้ำทะเล บริเวณหมู่บ้านม้งหนองหอย อำเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ บนม่อนแจ่มมีอากาศหนาวเย็นสบายตลอดทั้งปี มีทิวทัศน์ที่สวยงาม ท่ามกลางเมฆหมอก

และยังได้รับความเพลิดเพลินกับการท่องเที่ยงแปลงเกษตร การปลูกพืชเมืองหนาว ไร่สตอเบอรี่ ในช่วงฤดูหนาว และบริเวณใกล้ ๆ ม่อนแจ่ม จะเป็นที่ตั้งของ ศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย ภายในมีแปลงผักและงานวิจัยผักเมืองหนาว เช่น อาติโช๊ค, แปลงสมุนไพร เลมอนทาร์ม มิ้น คาร์โมมายด์ โรสแมรี่, ไม้ผล เช่น พลัม องุ่นไร้เมล็ด สตรอเบอรี่หวานฉ่ำ, แปลงผักไฮโดรโพนิค เป็นเทคโนโลยีการปลูกพืชโดยไม่ใช้ดิน เช่น โอ้คลีฟแดง และผักตระกูลสลัด มะเขือเทศดอยคำ

ม่อนแจ่ม ปรากฎโฉมในรูปแบบ “แคมปิ้ง รีสอร์ท” ที่กลมกลืนกับธรรมชาติได้อย่างลงตัว พร้อมชูความเป็นส่วนตัวและความสะดวกสบาย เช่น ในเต้นท์มีบริเวณส่วนตัว มีห้องน้ำส่วนตัว น้ำร้อน ไฟฟ้า และเครื่องใช้ครบครัน ประหนึ่งอยู่ในห้องพักโรงแรม แต่พิเศษ กว่าตรงที่ได้สัมผัสกับธรรมชาติอย่างใกล้ชิด เพราะเพียงแค่คุณเปิดหน้าต่าง สายลมเย็น ๆ วิวขุนเขา สายหมอก ก็โผล่รอต้อนรับ แถมยามค่ำคืนดาวน้อยใหญ่จะค่อย ๆ ส่องประกายแวววับให้มองเพลิน ๆ