หลวงน้ำทา

ผมเดินทางจากห้วยทราย แขวงบ่อแก้ว ด้วยรถประจำทางธรรมดาไม่มีแอร์ อากาศเย็นสบายอยู่แล้วและอีกอย่างลาวไม่มีรถแอร์เส้นทางนี้ครับ ระหว่างทางมีจอดให้ฉี่ข้างถนนสองครั้ง ทั้งผู้ชายและผู้หญิงก็หาทำเลเหมาะเอาตรงที่ตัวเองชอบ สาวลาวนิยมนุ่งผ้าซิ่นอยู่แล้ว เวลาฉี่เลยสะดวกหน่อย เพราะมีซิ่นคลุมไว้ดูไม่โป้ครับ เมื่อรถมาถึงสถานีขนส่งของหลวงน้ำทาก็ประมาณสี่ห้าโมงเย็น(ออกจากห้วยทรายเที่ยงครึ่ง) จากสถานีขนส่ง ต้องนั่งรถตุ๊กๆ เข้าตัวเมืองหลวงน้ำทาอีก ระยะทางไกลหน่อยนึงประมาณ 7 กิโลเมตร ราคาค่ารถประมาณ ซาวพันกีบ(20,000 กีบ)

หลวงน้ำทาเมืองผ่านที่สำคัญของประเทศลาว เพราะจากหลวงน้ำทาสามารถต่อรถไปยังจีนยูนนาน สิบสองปันนา เชียงรุ้งได้ นักท่องเที่ยวที่มายังหลวงน้ำทา ส่วนใหญ่หากเป็นฝรั่งก็จะซื้อทัวร์ไปเที่ยวบ้านชาวเขา ซึ่งมีบริการหลายบริษัท เพราะว่าที่หลวงน้ำทาและลาวทางตอนเหนือมีชนเผ่าต่างๆอยู่จำนวนมาก และยังใช้ชีวิตอยู่กับธรรามชาติแท้ๆ ผมเองก็จะกลับไปพักที่นี่และไปพักบ้านชาวเขา ใช้ชีวิตที่ลาวสักระยะ เพราะว่าผมชอบบรรยากาศของหลวงน้ำทา

นอกจากซื้อทัวร์เดินป่า ล่องแก่ง ขี้ช้าง ในป่าของหลวงน้ำทาแล้ว ภายในเมืองก็ยังสามารถเที่ยวได้ เมืองหลวงน้ำทาเป็นเมืองสงบ สะอาดน่าพักมากๆ ถึงแม้เมืองหลวงน้ำทาจะไม่ใช้มรดกโลกเพราะไม่มีบ้านเก่าๆ วัดวาอารามเก่าๆ วิวริมน้ำสวยๆ อย่างหลวงพระบาง แต่บรรยากาศที่นี่ไม่แพ้หลวงพระบางเลยทีเดียว ในเมืองหลวงน้ำทายังมีตลาดเย็น/ตลาดกลางคืน ป้ายภาษาอังกฤษว่า “Night market” ตลาดนี้ขายตั้งแต่บ่ายๆ ปิดสองสามทุ่ม ผมจะลงเรื่องนี้อีกครั้งครับ

นอกจากตลาดแล้วยังมีวัดและพระธาตุหลวงน้ำทา พระธาตุหลวงน้ำทาตั้งอยู่บนภูเขาสูง สามารถเดินออกกำลังขึ้นไปเที่ยวชมวิวของหลวงน้ำทาได้ จะเห็นวิวสวยๆของทั้งเมืองหลวงน้ำทา พระธาตุนี้สร้างเมื่อปี 2008 นี้เองครับ ในช่วง 4-5 ปีที่ผ่านมานี้ ประเทศลาวได้สร้างพระธาตุขึ้นอย่างน้อย 3 แห่ง คือที่หลวงน้ำทา 1 แห่ง และที่ พงสาลีกับอุดมไชย(เมืองไชย) อีกเมืองละ 1 แห่ง เท่าที่ผมดูพระธาตุของหลวงน้ำทาจะใหญ่สุดครับ

การเที่ยวชมบรรยากาศในหลวงน้ำทาถึงแม้จะเดินได้ทั่วเมืองในเวลาเพียง 30 นาที แต่หากใช้จักรยานก็ช่วยให้เราซอกแซกซอกซอยได้ครบแบบไม่เหนื่อย ผมจึงแนะนำให้เช่าจักยานสักคัน ราคาเช่าอยู่ที่ประมาณ 10 บาทต่อชั่วโมง ถูกกว่าที่หลวงพระบางเยอะครับ(หลวงพระบาง 50-100 บาท) หากเช่ามอเตอร์ไซค์ที่หลวงน้ำทา ราคาอยู่ที่วันละ 200 บาท หากไม่ได้ขับรถเที่ยวไปไกลถึงหมู่บ้านชาวเขาก็แค่จักรยานก็เพียงพอแล้วครับ

เมืองหลวงน้ำทาหากดูจากแผนที่ จะเห็นว่าอยู่เหนือจากเชียงรายมาก ทำให้อากาศหนาวเย็นกว่าที่เชียงรายที่เหนือสุดของประเทศไทย อีกทั้งค่าครองชีพที่นี่ก็ถูก ราคาที่พักห้องละ 200 บาท อาหารการกินก็ถูกหว่าเมืองอื่นๆ อย่างเบียร์ลาวที่ขาย 10 พันกีบทั่วประเทศ ที่นี่ขายแค่ 9 พันกีบ หรือ 36 ผมเองเดินเล่นทักทายคุยกับคนลาว บ้านนู้นทีบ้านนี้ที เขาให้ความเป็นกันเองกับเรามากเมืองนี้เป็นเมืองที่ผมขอแนะนำให้มาเที่ยวให้ได้

หลวงน้ำทาก็เหมือนกับปายของไทยหลายอย่าง คือมีแม่น้ำทาไหลผ่าน มีภูเขาโอบล้อม เป็นที่ราบท่ามกลางเขา ในเมืองมีชาวเผ่าต่างๆ มาเดินจับจ่ายซื้อของ แต่หลวงน้ำทายังคงเป็นเมืองสงบอยู่ไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมากเหมือนที่ปาย ราคาที่พักถูกกว่า อากาศหนาวเย็นกว่า

ผู้หญิงลาวไม่ว่าเด็กน้อย สาว หรือคนมีอายุ ก็จะนุ่งซิ่นกันทั้งนั้น ในโรงเรียนทุกระดับ นักเรียนนักศึกษาก็จะต้องนุ่งซิ่นไปโรงเรียน ช่วงที่ผมนั่งรถจากสถานีขนส่งหลวงน้ำทามายังตัวเมือง ผมก็เห็นนักเรียนขี่มอเตอร์ไซค์ใส่ซิ่นกลับจากโรงเรียน เป็นภาพที่ดูได้บรรยากาศดีมาก นุ่งซิ่นหรือคนไทยเรียกผ้าถุงก็สามารถขับมอเตอร์ไซค์ได้ และขับได้ปลอดภัยกว่าใส่กระโปรงสั้นๆด้วย เพราะไม่ต้องคอยเอามือไปดึงกระโปรงปิดบังไว้ นุ่งซิ่นก็ขับมอเตอร์ไซค์ได้อย่างปลอดภัยครับ

ที่หลวงน้ำทาอยู่ไม่ไกลจากจีน ทำให้มีคนจีนมาเที่ยวเยอะกว่าคนไทย ทำให้มีร้านอาหารจีนขาย คนจีนเขากินข้าวสวยทำให้หากเรามาเที่ยวที่นี่หาข้าวสวยกินไม่ยาก นอกจากนั้นยังมีร้านขายเฝ๋อให้เห็นหลายร้าน หรือจะไปซื้ออาหารตักขายในตลาดเย็นก็ยังได้ถูกดีด้วย พอตกกลางคืนก็มีร้านกินอาหารเปิดบริการ อย่างร้านบานาน่า ที่ผมไปลองกิน อาหารอร่อยใช้ได้ครับ นั่งกินไปดูทีวีละครไทยไปพร้อมๆกับแม่ครัว คุยกันเรื่องละครก็สนุกอีกแบบ

การเที่ยวแบบแบคแพคนั้นไม่ต้องเอาเสื้อผ้ามาเยอะ และใช้วิธีไปซักเอาดาบหน้า ซึ่งส่วนใหญ่แล้วตามเมืองท่องเที่ยวจะมีบริการซักผ้าให้ด้วย โดยจะคิดเป็นกิโลกรัม อย่างของหลวงน้ำทาราคากิโลละ 40 บาท ซักและพับไม่มีการรีดนะครับ การเที่ยวแบบนี้จะประหยัดและทำให้เที่ยวได้นานๆ และที่สำคัญได้เข้าถึงชาวบ้านจริงๆ Hotsia เราอยากเชิญชวนให้เพื่อนๆ เที่ยวแบบอิสระแบบผมนี้ให้มากๆขึ้น หากยังไม่ค่อยมั่นใจ ผมอยากแนะนำหนังสือ “แบ๊คแพ็ค เอเชีย” ซึ่งเขียนโดยนักแบคแบคชั้นเทพของไทยมีนามว่า มารพิณ ลองหามาอ่านดูและลองมาเที่ยวอิสระแบบผมจะชอบครับ
คงได้ข้อมูลท่องเที่ยวหลวงน้ำทากันพอควรนะครับ วันนี้ผมจบที่นั่งกินข้าวที่ร้านบานาน่า พรุ่งนี้จะพาเที่ยวตลาดเช้า ตลาดเย็น ของหลวงน้ำทาครับ ….Mr.Hotsia พ.ค. 2553