เที่ยวสะใจ บรูไน

เที่ยวสะใจบรูไน
ประเทศบรูไน (เนการาบรูไนดารุสซาลาม) ตั้งอยู่บนเกาะบอร์เนียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ชายฝั่งทางด้านเหนือจรดทะเลจีนใต้ พรมแดนทางบกที่เหลือจากนั้นถูกล้อมรอบด้วยรัฐซาราวัก มาเลเซียตะวันออก มาเลเซียมีสองฝั่งครับคือฝั่งตะวันตกที่อยู่ล่างไทย และฝั่งตะวันออกคือเกาะบอร์เนียว ตรงเกาะบอร์เนียวมีสามประเทศคืออินโดล่างสุด มาเลย์ และก็บรูไน ด้านบนๆ ของเกาะ บรูไนเป็นประเทศผู้ส่งออกน้ำมันเป็นสินค้าหลัก ประเทศเล็กๆที่รวย รายได้ของคนบรูไนต่อเดือน 46,000 บาท เป็นรองเพียงสิงคโปร์เท่านั้นใน AEC

การเดินทางมาท่องเที่ยวบรูไนท่านอาจบินมาจากกัวลาลัมเปอร์ (KL) มาเลเซีย หรือจะบินจากไทยไปโคตาคินาบาลู (Kota Kinabalu) ซึ่งสายการบินของแอร์เอเซียมีบินตรงไป แล้วเราก็ต่อรถจากนั่นมายังประเทศบรูไน สำหรับผมเดินทางมาจากสิงคโปร์ บินตรงจากสิงคโปร์มายังบรูไรครับ

เข้าใจประเทศบรูไนกันก่อน ประเทศนี้มีคนประมาณเพียง 400,000 คน มีพื้นที่เพียง 5,000 ตารางกิโลเมตร เท่าๆกับจังหวัดสุพรรณบุรีของไทย และพื้นที่ที่ผมเห็นก็เป็นป่าเป็นเขาเสียเยอะ ตอนผมไปผมพักที่เมืองหลวงบันดาร์เสรีเบกาวัน เป็นพื้นที่ราบมีแม่น้ำบรูไนไหลลงทะเล ตรงนั้นมีชาวบ้านที่อยู่เป็นหมู่บ้านกลางน้ำ ไม่ใช่เรือแพแต่เป็นเสาปักถึงบ้านดินได้เลย เขาเรียกว่า หมู่บ้านกัมปงไอเยอร์ (Kampong Ayer) มี 42 หมู่บ้าน มีคน 30,000 คน แต่ละหมู่บ้านนั้นเชื่อมต่อกันด้วยทางเดินเกือบสามสิบกิโลเมตร บริเวณหมู่บ้านยังประกอบไปด้วยโรงเรียน โรงพยาบาล ร้านอาหาร มัสยิด และนี่เป็นที่ท่องเที่ยวหลักสำหรับนักท่องเที่ยวที่บรูไน

การเดินทางด้วยเรือในบรูไนจึงคึกคักมาก ค่าเรือคนละ 25 บาทต่อเที่ยว เขาเรียกเรือแบบนี้ว่า (Boat taxi) ราคาเรือไม่ต้องไปต่อรองเท่ากันหมดผมรู้สึกว่าประเทศนี้ไม่มีการโกงยังงัยไม่รู้ ค่ารถ ค่า Taxi ไม่ต้องห่วง ยกเว้นค่ารถ Taxi จากสนามบินมาในเมืองจะแพงเอาเรื่องประมาณ 500 บาท การเดินทางไปบรูไนควรเตรียมเอกสารตั๋วเครื่องบินขากลับและเอกสารว่าพักที่ไหนพิมพ์ไปให้พร้อมด้วย เจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองจะเรียกหาบ้างครั้ง ตอนผมไปเขาก็เรียกดูครับ อาจเป็นเพราะว่าบรูไนเป็นจุดหมายปลายทางแห่งหนึ่งสำหรับผู้เข้ามาทำงานก็เป็นได้

ผมไปเที่ยวบรูไนผมพักสองคืน คืนแรกพักที่ห่างจากเมืองต้องนั่งเรือเข้ามาในเมือง water village apartment เหมาะสำหรับการเดินทางสามสี่คนพักห้องเดียวกันราคาประหยัด ดี และถูก มีครัว ที่ทำอาหาร ผมชอบที่นี่ด้วยครับ ส่วนคืนที่สองพักที่โรงแรม Jubilee hotel อยู่ในตัวเมืองเดินเที่ยวสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆได้เลย เนื่องจากตัวเมืองไม่ใหญ่ไปไหนก็เดินเอาครับ ในเมืองมีมี taxi meter หากจะใช้บริการให้โรงแรมติดต่อให้ครับ โรงแรมในบรูไนราคาเฉลี่ย 20,000 บาท ต่อคืนครับ ผมว่าใช้เวลาเที่ยวอยู่ที่บรูไนสักสองคืนกำลังดี Mr.hotsia แนะนำให้พักที่ Jubilee hotel หรือหากต้องการจองไปก่อนคลิกที่นี่ครับ

อาหารการกินของคนบรูไน มื้อเช้าผมฝากท้องกับร้านข้าวราดแกงในตลาดเช้าราคาไม่แพงครับซื้อและนั่งกินที่ร้านเลย มื้อเที่ยงแนะนำเป็นร้านอาหารพวกไก่ทอดร้านมีแอร์ หรือร้านกาแฟก็ได้ ส่วนมื้อเย็นก็ร้านอาหารจีนหรือร้านริมทางที่เป็นร้านอาหารผมเห็นแต่แบบนี้นะจริงๆอาจมีร้านแนวอื่นที่ถูกกว่านี้ อ้ออีกอย่างผมว่าที่บรูไนเนี่ยเขาคุ้นเคยกับคนไทยนะ คนที่ผมไปเจอแทบทุกคนและนับเลขไทยได้ เขาฝึกพูดไทยและทักทายยิ้มแย้มเป็นภาษาไทยด้วย ผมว่าหลายคนพูดไทยได้ด้วย ส่วนหนึ่งผมว่าเพราะคนไทยมาทำงานที่นี่เยอะ

สถานที่ท่องเที่ยว มีหลายแห่งแนะนำเช่น 1. พิพิธภัณฑ์รอยัลเรกกาเลีย (Royal Regalia Museum) ,2. มัสยิดทองคำ (Jame Ar’ Hassanil Bolkiah Mosque), 3. หมู่บ้านกัมปงไอเยอร์ (Kampong Ayer), 4. พระราชวัง Istana Nurul Iman (The Istana Nurul Iman palace), 5. สวนสนุก Jerudong (Jerudong Park), 6. ชายหาดอันสวยงาม, 7. อุทยานแห่งชาติ Temburong (Temburong National Park), 8. อนุสาวรีย์น้ำมันหนึ่งล้านบาร์เรล (Billionth Barrel Monument), 9. พิพิธภัณฑ์บรูไน (Brunei Museum), 10. ย่านช้อปปิ้งของบรูไน Yayasan Sultan Haji Hassanal Bolkiah Complex ส่วนผมเที่ยวดูวิถีชีวิตคนชาวน้ำกำปงอเยอ นั่งเรือเที่ยว เดินเที่ยวในเมือง ตลาด ในสไตย์ Mr.Hotsia เที่ยวสะใจครับ ตุลาคม 2558

และต่อไปนี้คือข้อมูลที่ผมได้มาจากสถานทูตไทย สำหรับคนไทยที่จะเดินทางไปบรูไนทุกคนต้องรู้ก่อนเดินทางครับ ผมไปเที่ยวมาแล้วข้อมูลเหล่านี้เขาทำกันจริงจังไม่ได้เล่นๆครับ ต้องทำตามนี้นะ

ข้อมูลทั่วไปของประเทศบรูไนฯ
1. สภาพภูมิอากาศของบรูไนฯ ค่อนข้างร้อนชื้น ฝนตกชุกตลอดทั้งปี อุณหภูมิเฉลี่ย 28-32 องศาเซลเซียส
2. เขตเวลาของบรูไนฯ คือ GMT+8 คือเร็วกว่าเวลาไทย 1 ชั่วโมง
3. ภาษามาเลย์เป็นภาษาประจำชาติของบรูไนฯ แต่ชาวบรูไนสามารถใช้ภาษาอังกฤษได้เป็นอย่างดี
4. ศาสนาอิสลามเป็นศาสนาประจำชาติของบรูไนฯ (นิกายสุหนี่)
5. บรูไนฯ มีประชากรประมาณ 4 แสนคน โดยร้อยละ 67 เป็นชาวมุสลิม
6. บรูไนฯ ใช้เงินสกุลดอลลาร์บรูไน (Brunei Dollar) มีอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 1.24 ดอลลาร์บรูไนต่อ 1 ดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 24-25 บาทต่อ 1 ดอลลาร์บรูไน ทั้งนี้ บรูไนฯ มีความตกลงแลกเปลี่ยนเงินกับสิงคโปร์ เงินดอลลาร์สิงคโปร์มีมูลค่าเท่ากับเงินดอลลาร์บรูไนและสามารถใช้แทนกันได้
7. รหัสโทรศัพท์ – รหัสประเทศของบรูไนฯ คือ +673
8. บรูไนฯ ใช้กระแสไฟฟ้า 220-240 โวลต์ ปลั๊กไฟเป็นแบบเต้าเสียบ 3 ขา (แบบอังกฤษ)
9. น้ำประปาในบรูไนฯ ไม่สามารถใช้ดื่มได้
10. หมายเลขโทรศัพท์ฉุกเฉินของบรูไนฯ ได้แก่ รถพยาบาล 991 ตำรวจ 993 ดับเพลิง 995 กู้ภัย 998
11. บรูไนฯ มีรถประจำทางสาธารณะหลายสายแต่จำนวนเที่ยวรถไม่มากเท่าไรนัก ค่าโดยสารเที่ยวละ 1 ดอลลาร์บรูไนตลอดสาย
12. บรูไนฯ มีรถแท็กซี่สำหรับใช้เดินทางในเมือง โดยค่าบริการต่อเที่ยวค่อนข้างแพง (เที่ยวละประมาณ 20 – 50 ดอลลาร์บรูไนขึ้นกับระยะทาง) และไม่สามารถเรียกได้ตามท้องถนน ต้องโทรศัพท์เรียกเท่านั้น

ข้อควรระวังและข้อควรหลีกเลี่ยงในการปฏิบัติในบรูไนฯ
1. ห้ามใช้นิ้วชี้ในการชี้คนหรือสิ่งของใด ๆ เนื่องจากถือเป็นกิริยาที่ไม่สุภาพอย่างมาก ตามธรรมเนียมปฏิบัติชาวบรูไนจะใช้นิ้วหัวแม่มือข้างขวาแทนนิ้วชี้ในทุกกรณีไม่ว่าจะชี้บุคคลหรือสิ่งของ
2. ห้ามดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ในที่สาธารณะโดยเด็ดขาด กฎหมายบรูไนอนุญาตให้ชาวต่างชาติหรือผู้ที่ไม่ใช่มุสลิมสามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ได้ในที่พักส่วนตัวเท่านั้น
3. ก่อนเข้าไปในศาสนสถานจะต้องถอดรองเท้าก่อนทุกครั้ง หากไม่ใช่คนมุสลิมให้เดินในบริเวณที่จัดให้เท่านั้น ทั้งนี้สำหรับสุภาพสตรีที่ไม่ใช่มุสลิมจะมีชุดคลุมยาวสีดำจัดไว้ให้สำหรับสวมทับก่อนเข้าไปในศาสนสถานนั้นๆ
4. ห้ามถ่ายรูปภายในศาสนสถาน
5. ในการทักทายกันให้ใช้การสัมผัสมือ หลังจากปล่อยมือแล้วให้นำมือนั้นมาแตะบริเวณหัวใจเพื่อเป็นการให้เกียรติ ทั้งนี้ ชาวมุสลิมบรูไนที่เคร่งครัดบางคนจะไม่สัมผัสมือกับเพศตรงข้าม ดังนั้น ในการทักทายชาวมุสลิมบรูไนเพศตรงข้าม จึงควรรอให้ฝ่ายบรูไนยื่นมือมาก่อน
6. ในการส่งของหรือรับของควรใช้มือขวาเท่านั้น แต่สามารถใช้มือซ้ายช่วยประคองได้
7. เมื่อได้รับการเชื้อเชิญให้รับประทานอาหาร หากไม่รับประทานให้กล่าวขอบคุณและใช้มือสัมผัสที่ภาชนะอาหาร
8. การแต่งกายในที่สาธารณะ สุภาพสตรีควรแต่งกายสุภาพ มิดชิด ไม่ควรใส่ชุดที่พอดีตัวจนเกินไป และควรหลีกเลี่ยงการสังสรรค์ในหมู่สุภาพบุรุษจำนวนมาก
9. การแต่งกายควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าสีเหลือง เนื่องจากเป็นสีของสถาบันพระมหากษัตริย์ของบรูไนฯ และควรหลีกเลี่ยงเสื้อผ้าลายรูปสัตว์หรือการให้ของขวัญที่มีรูปสัตว์
10. สีดำถือเป็นสีพิธีการของบรูไน หากจะเข้าร่วมพิธีใดที่เป็นทางการ สุภาพสตรีควรแต่งชุดสีดำที่มิดชิด หากเป็นไปได้ควรเป็นเสื้อแขนยาวและกระโปรงยาวคลุมข้อเท้า
11. ในทุกวันศุกร์ ระหว่างเวลา 12.00 – 14.00 น. ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร ร้านค้าทุกแห่งจะปิดการให้บริการชั่วคราวตามกฎหมาย ควรวางแผนล่วงหน้าหากต้องรับประทานอาหารกลางวันนอกสถานที่
12. ในช่วงเดือนรอมฎอน ชาวมุสลิมจะถือศีลอดตั้งแต่พระอาทิตย์ขึ้นถึงพระอาทิตย์ตก ดังนั้น ในช่วงเวลาดังกล่าว ห้ามดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารในที่สาธารณะโดยเด็ดขาด ผู้ที่มิใช่มุสลิมต้องดื่มน้ำหรือรับประทานอาหารในสถานที่ส่วนบุคคลเท่านั้น ร้านอาหารจะไม่ให้บริการสำหรับการรับประทานในร้าน ต้องซื้อกลับมารับประทานในสถานที่ส่วนบุคคลเท่านั้น
13. ห้ามบีบแตรรถยนต์ หากไม่ใช่กรณีสุดวิสัย เพราะชาวบรูไนถือว่า การบีบแตรเป็นการเสียมารยาทอย่างมาก
14. หากมีขบวนเสด็จขับสวนทางหรือขับผ่านและมีรถจักรยานยนต์ตำรวจนำโบกให้จอดรถ ต้องหยุดรถและจอดชิดข้างทางด้านซ้ายทันที รอให้ขบวนเสด็จผ่านไปแล้วจึงออกรถได้
15. ตามธรรมเนียมปฎิบัติของผู้ขับขี่รถยนต์ในบรูไนฯ ผู้ขับขี่รถยนต์จะหยุดรถตรงทางม้าลายให้คนข้ามก่อนเสมอ
16. ตามธรรมเนียมปฎิบัติของผู้ขับขี่รถยนต์ในบรูไนฯ การกระพริบไฟหน้ารถถือว่าเป็นการให้ทาง

ข้อมูลท่องเที่ยวประเทศบรูไน
ประเทศบรูไนเป็นประเทศเล็กๆ ที่อยู่ด้านบนของมาเลเซียตะวันออก ที่บรูไรเป็นที่รู้จักเพราะว่าเป็นประเทศที่ร่ำรวยจากการที่บรูไนสำรวจพบน้ำมันและแก๊สธรรมชาติที่เมืองเซรีอา ทำให้บรูไนมีฐานะมั่งคั่งและชาวโลกรู้จักประเทศนี้ขึ้นมา
สมเด็จพระราชาธิบดีฮัจญี ฮัสซานัล โบลเกียห์ มูอิซซัดดิน วัดเดาเลาะห์ คือกษัตริย์ของประเทศนี้ ผมมีแผนที่จะเดินทางท่องเที่ยวมาเลเซียตะวันออก และจะไปเที่ยวประเทศนี้ด้วย อยากดูความร่ำรวยของประเทศนี้ว่าทำให้ความเป็นอยู่ของชาวบรูไนสุขสบายเพียงใหน ในฐานะเป็นหนึ่งในสิบประเทศที่เป็นสมาชิกสมาคมอาเซียน mr.hotsia เที่ยวสะใจ