ในขณะที่ทุกๆหน้าหนาวเมืองปายเต็มไปด้วยผู้คน ต่อคิวกันเที่ยวกิน หรือแม้แย่งกันต่อยกันเพื่อที่จะเติมน้ำมัน แต่เวียงแหงเมืองที่อยู่เหนือปายขึ้นไป 59 กิโลเมตร กลับเป็นเมืองที่สงบ ธรรมชาติสวยงามเหมือนปายสมัยก่อนหรืออาจจะดีกว่า มีคนรู้และเที่ยวที่นี่ไม่กี่คน ไม่ต้องแก่งแย่งกันเที่ยว ไม่สับสนวุ่นวายไปด้วยคลื่นมนุษย์ถนนคนเดิน
อาจเป็นเพราะที่นี้เที่ยวเป็นวงรอบไม่ได้ มายากจึงทำให้ไม่มีฝรั่งมาเที่ยว เลยไม่ได้ลงหนังสือ Lonely planet ทำให้เวียงแหงยังคงน่าเที่ยวสำหรับคนที่รักธรรมชาติไม่ชอบความวุ่นวาย คนที่เวียงแหงแทบทั้งหมดเป็นคนไทใหญ่ มีลีซอแต่เป็นส่วนน้อย คนนอกพื้นที่แทบไม่มีมาอยู่ที่นี่ การที่ผมมาเที่ยวเวียงแหงเหมือนไม่ได้อยู่ประเทศไทยอีกต่อไป เหมือนกำลังเที่ยวอยู่ที่จังหวัดเชียงตุงของพม่ามากกว่าเคยได้ยินนักท่องเที่ยวเล่าขานกันว่าบ้านฮวกนั้นสวยอาจเป็นปายแห่งที่สอง บ้างก็ว่านาขั้นบันไดและความสวยงามของแม่แจ่มน่าจะเป็นปายสอง แต่สำหรับผมไม่มีปายสองทั้งสิ้น ผมไปนอนทั้งที่แม่แจ่มและปาย และที่บ้านฮวกไม่ได้อยู่วันสองวันด้วย แต่ละที่นั้นแตกต่างกันไปเลย ปายวิวสวยเป็นเมืองคล้ายหุบเขา แม่แจ่มนาขั้นบันไดอยู่นอกเมือง บ้านฮวกได้อากาศที่ดีเยี่ยมแต่วิวและจุดขายอื่นมีน้อย แต่หากจะให้พอนึกภาพว่าปายเหมือนอะไรมากที่สุด ต้องขอตอบว่าเวียงแหงเท่านั้น เวียงแหงอยู่เหนือปายเพียง 59 กิโลเมตร อากาศหนาวกว่าเพราะเหนือกว่า เจอลมหนาวจากจีนก่อนปายอีก ที่ปายมีชาวเขาหลายเผ่า เวียงแหงมีไทใหญ่อย่างเดียวสำหรับผมพยายามมาเวียงแหงครั้งนี้เป็นครั้งที่สองแล้ว หลังจากครั้งแรกมาทางเมืองนะ หลังออกมาจากอ่างขาง แต่มีฝนตกก่อนหน้าผมมาทำให้ทางผ่านไม่ได้ ครั้งที่สองมาทางเชียงดาวเลี้ยวซ้ายมาเวียงแหงโดยตรงจึงสำเร็จ ทางเส้นนี้ดี ขับง่ายไม่ค่อยมีรถวิ่งสวนไปมาเพราะเป็นทางเกือบตัน เนื่องจากยังออกไปทางเมืองนะได้แต่ทางไปเมืองนะไม่ดีเลยไม่มีคนใช้นัก สำหรับเรื่องโค้งนั้นถึงไม่โค้งเท่าทางไปปายแต่ก็ไม่ได้น้อยกว่ากันเลยครับเวียงแหง เที่ยวเวียงแหง เที่ยวเปียงหลวงวิวเมืองเวียงแหงเวียงแหง เที่ยวเวียงแหง เที่ยวเปียงหลวงที่พักแห่งหนึ่งที่เวียงแหงวันที่ผมมาเที่ยวเวียงแหงเป็นช่วงหน้าหนาวพอดี ตอนตอนเช้าที่บ้านระเบียงไม้รีสอร์ทหมอกเต็มไปหมดอากาศหนาวมาก เมื่อตื่นมาแล้วผมก็ไปงานตานก๋วยสลากตอนเช้าของวัดศรีเมืองใหม่ ตอกลางวันผมก็ไปเที่ยวบ้างเปียงหลวงแล้วไปวัดฟ้าเวียงอินทร์ วัดที่เป็นเจ้าของสองประเทศร่วมกันคือไทยและพม่า ตกตอนเย็นก็มาเที่ยวงานปอยเทียนที่วัดมาดูเขารำนกและการแสดงบเวทีด้วยงานของไทใหญ่มีงานสำคัญสองงานคืองานปอยเทียนที่ผมมาในครั้งนี้ และอีกงานคืองานปอยหลวงหรืองานบวชเณรของเขา งานปอยหลวงจะเป็นงานใหญ่ของปี จะมีการรำจ๊าดไตที่ผมไม่เคยเป็น จะเป็นการรำที่แปลกมากคล้ายลิเกผสมรำพม่า จะเป็นแบบเต้นกระดกขา
ที่เวียงแหงวิวสวยทุกจุดจอดรถชมวิวตรงไหนก็ได้ เหมือนกับปายที่อากาศหนาวิวสวยเวียงแหงก็เหมือนกัน หากเลยไปทางชายแดนจะมีอีกหมู่บ้านคือบ้านเปียงหลวงเป็นไทใหญ่เหมือนกัน เลยไปอีก 3 กิโลเมตรจะเป็นบ้านหลักแต่งบ้านชายแดนสุด สมัยก่อนเปิดให้ผ่านแดนชั่วคราว ต่อมาเมื่อพม่าจัดระเบียบเรื่องชนกลุ่มน้อยของเขาเสร็จก็ปิดด่านนี้ พร้อมกับแบ่งวัดฟ้าเวียงอินทร์ไปครึ่งหนึ่ง
สำหรับเรื่องที่พักที่เวียงแหงผมดูแล้วเหมือนกำลังจะสร้างใหม่สองสามแห่ง ที่ผมแนะนำที่แรกคือสฤงฆารฮัทเวียงแหง ที่นี่อยู่ใกล้ตัวเมืองเวียงแหง มีอินเตอร์เน็ต WIFI ฟรี คืนแรกผมฟักที่นี่ครับ ในเมืองเวียงแหงยังมีที่พักอีกอยู่ตรงข้ามก๋วยเตี๋ยวเชียงตุง เจ้าของเดียวกันครับ ส่วนคืนที่สองสาม ผมไปพักที่บ้านระเบียงไม้ ที่นี่สววิวดี ตอนที่ผมไปพักเขายังติดตั้งอินเตอร์เน็ต WIFI ไม่เสร็จครับเรื่องที่กินที่เวียงแหงเหมือนมีร้านเดียวคือร้านก๋วยเตี๋ยวเชียงตุง อร่อยมาดครับขอบอก ส่วนที่เปียงหลวงมีร้านก่อนถึงวัดทางซ้ายมือขายเบียร์ด้วยอาหารตามสั่งด้วยปิดดึกหน่อย อีกร้านคือร้านที่ผมไปกินประจำคือร้านคุณฟูรัฐฉาน (พอดีผม save เบอร์เขาไว้ชื่อนี้) ร้านอยู่ตรงตลาดเปียงหลวงทางซ้ายมือ เป็นทั้งร้านทำผมและขายอาหารด้วย ร้านนี้ทำอาหารอร่อยถูกใจผมครับเวียงแหงวันนี้ยังไม่ค่อยมีนักท่องเที่ยวมาถึง หากจะเที่ยวต้องเป็นช่วงนี้เท่านั้น การเดินทางมาก็ไม่ยากครับ จากเชียงดาวเลี้ยวซ้าย 72 กิโลเมตรก็ถึงแล้ว หากต่อไปเขาทำถนนจากเวียงแหงไปปายได้ดีกว่านี้ บรรยากาศแบบที่ผมเห็นอาจจะไม่เหลือก็ได้ รีบมาเที่ยวกันนะครับ Mr.Hotsia 2553