เมืองระเบิด เชียงขวาง

เมืองระเบิดเชียงขวาง 2014
สมัยที่มีสงครามอเมริกาพื้นที่เชียงขวางถูกระเบิดลงจำนวนมาก ทุกวันนี้ก็ยังเก็บกู้ไม่หมด เก็บไปอีก 100 ปีก็ไม่หมด ส่วนหนึ่งของระเบิดเขานำไปเก็บที่สถานีตำรวจที่รถที่จะพาเที่ยวต้องไปลงชื่อนั่นแหละ ส่วนหนึ่งของระเบิดชาวบ้านก็นำไปทำรั่ว ทำเสาบ้าน ตามเกสเฮ้าที่ท่องเที่ยวก็นำมาตบแต่งให้ดูเมืองระเบิดตามที่ผมถ่ายรูปมาให้ชม


ทุกวันนี้ระเบิดยังคงมีอยู่และมีชาวบ้านโดนระเบิดจาดการไปขุดไปทำนา หรือไปในป่ากันทุกปี ไม่ใช่แค่เชียงขวางอย่างเดียวที่เป็นเช่นนี้ ขนาดผมไปเที่ยวสาละวันแถวๆท่าแตงผมยังไปเจอระเบิดที่วัวมันขุดขึ้นมาเลย ดังนั้นไปเที่ยวลาวโซนเหนือ หรือโซนที่มีระเบิดอย่าได้ไปปัสสาวะนอกเขตปลอดภัย อย่าเดินไปลึกในป่าเด็ดขาด

หลายปีผ่านมาที่ผมเคยมาเที่ยวเชียงขวาง เคยเห็นรถถังจอดริมถนน สมัยนี้เขานำไปเก็บที่เดียวกันหมดแล้ว เป็นการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดี ราคาทัวร์ก็ถูกขึ้น อาหารการกินของนักท่องเที่ยวก้มากขึ้น สรุปเที่ยวเชียงของวันนี้สะดวกและประหยัดขึ้นครับ เที่ยวสะใจนะ Mr.Hotsia เที่ยวสะใจ (พักโรงแรมเดียวกับมิสเตอร์ฮ๊อตเซียคลิกที่นี่)

เมืองระเบิดเชียงขวาง (2010)
หลายๆบทความเรื่องเกี่ยวกับการทิ้งระเบิดของอเมริกาในประเทศลาวช่วงสงครามอินโดจีน บรรยายได้รันทดใจผู้อ่านยิ่งนักอ่านแล้วน้ำตาซึมกับเรื่องราวที่เกิดขึ้น ระเบิดนับล้านๆตัน มรดกตกทอดสู่คนลาวทั้งประเทศคนลาวแต่ละคนจะได้รับเป็นระเบิดหนักคนละหนึ่งตันหรือพันกิโลกรัม เรื่องราวของสงครามในลาวและเรื่องราวของการทำงานกู้ระเบิดของ UXO ผมได้นำมาลงให้ไว้ด้านล่างนี้แล้ว ต้องขอขอบคุณผู้เขียนคือคุณทรงฤทธิ์ โพนเงิน จากเนชั่นมา ณ. ที่นี้

สำหรับ Hotsia.com เราจะนำเสนอไม่ให้ท่านเครียดเรื่องระเบิดเกินไปนัก เพราะเรื่องมันก็ผ่านมานานพอสมควรแล้วลาวเองก็เปิดประเทศให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวหลายปี เรามามองในมุมของนักท่องเที่ยว เก็บเกี่ยวประสบการณ์ที่ดีๆจากเมืองเชียงขวางกันดีกว่า

เมืองเชียงขวางเป็นเมืองทางเหนือของลาวติดกับเวียดนาม ด้านบนติดกับซำเหนือ ที่ซำเหนือมีเมืองเวียงไชย ซึ่งเป็นที่มั่นของผู้นำกองทัพลาว ทำให้แขวงเชียงขวางเป็นแขวงหนึ่งที่โดนทิ้งระเบิดแบบปูพรมแทบทุกตารางเมตร ระเบิดจำนวน 3 ล้านตันถูกทิ้งลงจากฟ้าทุกๆ 5 นาที ประเทศไทยเองก็ถูกใช้เป็นฐานของเครื่องบินอเมริกาที่นำระเบิดไปทิ้งที่ลาวและเวียดนามด้วย

ระเบิดที่ไม่ระเบิดก็ยังมีอยู่จำนวนมาก ตามป่าเขาหรือท้องนาก็ยังพบกันทุกวัน มีหน่วยงานสากลที่ทำหน้าที่ตรงนี้เรียกชื่อกันว่า UXO ผมเองได้มีโอกาสไปคุยกับชาวบ้านที่ทำงานให้กับ UXO เขาได้เงินเดือนๆละ 4,000 บาท ในแต่ละวันเขาจะออกไปตรวจหาระเบิดและก็จะได้ทุกวัน หาระเบิดในลาวนี่ง่ายกว่าหาปลากินเสียอีก เรื่องการหาระเบิดผมจะยกไปเขียนอีกเรื่องนึงว่าเขาทำกันอย่างไร

เป็นที่รู้กันดีกว่าใครมาที่เชียงขวางนั้นห้ามเดินเข้าเขตที่ UXO เขายังไม่ได้กำหนดให้เป็นเขตปลอดระเบิดเป็นอันขาด เพราะท่านอาจเหยียบเข้ากับระเบิดได้ง่ายๆ ท่านที่เคยไปทุ่งไหหินคงจะนึกภาพออกว่า UXO เขามีป้ายประกาศว่าสถานที่บริเวณทุ่งไหหินนั้นปลอดจากระเบิดแล้ว ส่วนบริเวณอื่นๆที่ไม่ใช่ที่อยู่อาศัยนั้นยังอันตรายอยู่ ใครไปเที่ยวเชียงขวางอย่าได้เดินนอกเส้นทางเด็ดขาด

ก่อนหน้าที่หน่วยงาน UXO จะเข้ามานั้นชาวบ้านก็พบเจอกับระเบิดและก็ด้วยความไม่รู้เอาเลื่อยไปเลื่อย หรือไปเผาทำลาย บาดเจ็บล้มตายแขนขาขาดกันไปหลายคน ส่วนที่รอดมาได้ก็จะได้มรดกตกทอดที่เป็นระเบิดมาตกแต่งบ้าน ร้านอาหารที่พักอาศัย มีการนำซากระเบิดไปทำเสาบ้านพัก ทำโรงวัว ประดับตกแต่งเพื่อความสวยงาม หรือเก็บเข้าตู้โชว์ก็เยอะ หรือแม้แต่เอาไปทำเป็นเรือก็เหมาะ (ดูเรือระเบิด)เพราะซากระเบิดเหล่านี้ทนทานกว่าไม้และเหล็กธรรมดาๆ

หากพูดถึงจิตใจคนลาวช่วงที่เขาถูกทิ้งระเบิดแล้วช่างรันทดใจ ชาวบ้านต้องโกหกลูกไปว่า “เขาทิ้งระเบิดเพื่อฆ่ากวาง ฆ่าสัตว์จะได้มีมาให้กินในแต่ละวัน” เด็กๆจะรู้ว่าเป็นเรื่องปกติต้องมีเสียงระเบิด ถ้าไม่มีสิแปลก ไม่มีเสียงระเบิดแล้วจะกินอะไรกัน? แม่ต้องโกหกลูกไปวันๆ แต่เมื่อเวลาผ่านไปสงครามจบแต่ซากระเบิดมันยังคงอยู่ทำให้เตือนความจำคนลาวตรงนี้ทุกครั้งที่เห็นซากระเบิด

สำหรับคนไทยนั้นชาวลาวรู้อยู่เต็มอกว่าประเทศไทยเองก็เป็นสถานที่ที่อเมริกาใช้เป็นฐานบินทิ้งระเบิดแต่ด้วยความเป็นบ้านพี่เมืองน้อง ก็หาได้โกรธแค้นคนไทยไม่ ชาวลาวส่วนหนึ่งจะรู้สึกไม่ดีนักกับชาติที่ทำกับเขา(อเมริกา) เพื่อนชาวลาวบางคนบอกกับผมว่าเขาไม่คุยด้วยกับชาวอเมริกาเลย แถมยังไม่มองและไม่สนใจด้วย นักท่องเที่ยวชาวอเมริกาในลาวเองก็ไม่ค่อยมีนักถึงมีก็บอกว่ามาจากยุโรป นักท่องเที่ยวอเมริกาเองก็รู้และไม่ค่อยไปเที่ยวลาวและเวียดนามกัน เราคนไทยต้องรู้ตรงนี้ไว้สักนิด เพื่อเป็นภูมิคุ้มกันเวลาไปเที่ยวจะได้เขาใจเขาเข้าใจเรา ไม่ไปพูดอะไรที่สะกิดใจกัน โดยเฉพาะแขวงที่ติดกับเวียดนามเหนือและเวียดนามเหนือ หากไปเที่ยวต้องเข้าใจตรงนี้ดีๆ (เวียดนามเหนืออยู่ฝ่ายจีน-โซเวียต เวียดนามใต้อยู่ฝ่ายอเมริกา)

เอาล่ะครับหมดเรื่องเครียดกันเสียทีมาดูเชียงขวางวันนี้กันดีกว่า เมื่อผมเดินทางมาถึงเชียงขวาง ก็มีรถของที่พักไปติดต่อและรับมาพักด้วยที่พักที่นี่ราคาไม่กี่ร้อยบาทถือว่าถูก เมืองเชียงขวางมีอินเตอร์เน็ตให้ใช้ มีไฟฟ้า ประปา แต่น้ำประปาบางโรงแรมที่พักอาจไหลอ่อยๆช่วงกลางคืนทางที่ดีอาบน้ำตอนเย็นๆ เซฟกว่า เมืองเชียงขวางมีร้านขายอาหารตามสั่งไม่กี่ร้าน ที่ผมเห็นนักท่องเที่ยวไปนั่งกินกันก็แค่ร้านเดียวราคาอาหารที่นี่ไม่แพงเท่าหลวงพระบาง นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะซื้อทัวร์มาจากหลวงพระบาง นอนเชียงขวางหนึ่งคืน ไปทุ่งไหหินแล้วกลับ

เชียงขวางเป็นชื่อแขวง เมืองที่คนไปพักกันเรียกว่าเมืองแปก ส่วนโพนสวรรค์เป็นชื่อเมืองเก่าอีกเมืองก่อนที่จะมาอยู่ที่เมืองแปก หากถามท่ารถที่หลวงพระบางจะมาทุ่งไหหินเชียงขวางต้องถามว่ารถไปโพนสวรรค์มีไหม? เมื่อมาถึงโพนสวรรค์จริงๆก็คือเมืองแปก(ต้นสน) แขวงเชียงขวาง จะมีทัวร์ขายไปเที่ยวทุ่งไหหินราคาคนละประมาณ 500 บาท แบบแชร์กันไปเป็นกลุ่มๆละ 7 คน

เมืองแปกหรือเชียงขวาง ตามร้านอาหาร ที่พัก บ้านคนจะถูกประดับด้วยลูกระเบิดดูสวยงามแปลกตามาก โรงแรมที่ผมไปพักอยู่ตรงข้ามคิวรถเล็ก โรงแรมนี้ผมว่ามีระเบิดมากกว่าโรงแรมอื่นๆ ตั้งแต่หน้าโรงแรม ด้านใน ตู้โชว์ ด้านบน ระเบียง นอกจากระเบิดยังมีปืนกล กระสุนปืน และของที่ใช้ในสงครามหลายชนิด

ระเบิดที่เห็นในรูปจะเป็นเปลือกของระเบิด หรือเรียกว่ารางระเบิด ด้านในจะมีลูกระเบิดกลมเล็กอีกหลายลูก ช่วงที่เดินทางไปทุ่งไหหิน ไกด์พาเที่ยวได้พาไปบ้านชาวบ้านที่เอารางระเบิดมาทำเสาบ้าน เสาโรงวัว นอกจากเที่ยวชมเมืองระเบิดแล้วยังได้ไปชมซากรถถังอีกด้วย รถถังคันนี้จอดตากแดดตากฝนอยู่ข้างถนนไม่มีใครไปสนใจ แต่ได้ทราบมาว่าเขากำลังจะสร้างเป็น พิพิธภัณฑ์สงคราม เพื่อนำของเกี่ยวกับสงครามทั้งหมดไปรักษาไว้ที่นั่น

มาเชียงขวางมาชมเมืองระเบิด แค่ได้มาเดินเล่นชมลูกระเบิดตามท้องถนนก็คุ้มแล้ว เพราะหาดูที่ไหนไม่ได้ง่ายๆ หากจะรอให้เกิดสงครามอีกครั้งไม่ว่าที่ไหนก็จะไม่เห็นซากมรดกระเบิดแบบนี้อีกแน่นอน เพราะเทคโนโลยีเรื่องระเบิดและสงครามไปไกลมากนัก มาเชียงขวางนอกจากเที่ยวชมระเบิดยังได้เที่ยวทุ่งไหหินอีกด้วย ….Mr.Hotsia พ.ค. 53