สองเท้าก้าวไปในความมืด… ผู้คนมากมายกำลังเดินดุ่มๆ ฝ่าอากาศหนาวออกจาก ศูนย์วังกวางซึ่งเป็นที่ค้างแรม บ่ายหน้าสู่ทิศตะวันออกไปสู่ “ผานกแอ่น” แหล่งนัดพบในทุกเช้าของนักเดินทาง ที่มาเที่ยวบนยอดภูกระดึง
เงื่อนไขมีอย่างเดียวคือ “ถ้าตื่นไหว” นะ อากาศยะเยือกตอนเช้าคงทำให้พวกเราไม่อยากโผล่หัวมาจากถุงนอนและไออุ่นของเต็นท์ ผมเองก็เป็นแบบนี้บ่อย ถึงรู้ว่าอีกนิดเดียวมีวิวงามระดับเทพรออยู่ แต่คงต้องอาศัพลังใจปลุกเร้าน่าดูกว่าจะงัดร่างตัวเองรูดซิปเต้นท์ออกมาได้ในที่สุด
ภาพชุดนี้ถ่ายในการตะเกียกตะกายขึ้นภูกระดึงหนหนึ่ง ที่ได้สัมผัสหมอกหนา และทะเลหมอกแบบเต็มๆ สมความตั้งใจ บรรยากาศรอคอยพระอาทิตย์ขึ้นก่อนสางบอกตามตรงว่าเยี่ยมมาก เริ่มจาก ทุกอย่างมืดสนิท มีแต่แสงไฟถนนเป็นแนวยาวอยู่ในตัวอำเภอภูกระดึง ที่ทอดตัวยาวอยู่เบื้องล่าง สังเกตให้ดีจะเห็นแสงไฟถนนใหญ่เส้นจังหวัดเลย- ชุมแพ ไกลไปสุดตา
ทันใดนั้นก็เหมือนมีแสงเรื่อจางๆ ที่ขอบฟ้าด้านตะวันออก แล้วก็เริ่มเห็นเงาเขาเป็นแนว มองไกลออกไป จะเห็นผานกเค้า ที่เป็นจุดลงรถทัวร์ของหลายต่อหลายคน ตั้งตระหง่านแหลมขึ้นมาอยู่ไกล ๆ ฉากหลังมีภูเขาเรียงราย ตรงริมผ้าด้านหน้าเรา มีต้นสนใหญ่เหยียดกิ่งและใบยาวกลายเป็นฉากถ่ายรูปให้กับผานักแอ่น แม้อาจไม่เด่นเหมือนสนต้นที่ผาหล่มสัก แต่ก็สวยสะดุดตาไม่แพ้กัน
ผมว่านะ อารมณ์ที่เห็นขอบฟ้าสุดสายตาในรุ่งสาง มันมีความสุขแบบบอกไม่ถูก สงสัยแบบนี้ล่ะที่ทำให้เวลาเที่ยวป่าเที่ยวภู มันมีเสน่ห์ สมความท้าทายที่ต้องอดทนเดินขึ้นไปด้วยสองขาและลำแข้ง กลายเป็นผู้เสพติดวิวงามๆ และสีสันธรรมชาติแบบไร้แต่งแต้ม
ถ้าหน้าเทศกาลช่วงนักท่องเที่ยวมาเยอะๆ ในหน้าหนาว ที่ผานกแอ่นจะมีบริการกาแฟชาร้อน ขาย ให้นักท่องเที่ยวซดแก้หนาว ปลุกสายตาให้ลืมง่วงจากที่งัวเงียออกมาจากเต้นท์ บางคนก็โดนเพื่อนกระชากตัวมาเดินแบบวิญญาณออกจากร่างก็มี
วันนั้นทะลหมอกที่ผานกแอ่นสุดยอดจริงๆ เหมือนมีหมอกเป็นระลอกคลื่นอยู่ด้านล่างตรงหน้า เสียฮือฮากับเสียงลั่นชัตเตอร์ดังไม่ขาดระยะ ผานกเค้าเด่นลอยเหมือนโขดหินโสโครกยักษ์กลางทะเลสีขาวนวล
ผาด้านอื่น จะเป็นผาอาทิตย์ตกเกือบทั้งหมด ยกเว้นบางเดือนที่ผาหมากดูกที่สามารถมองเห็นดวงอาทิคย์ขึ้นยามเช้าได้บ้าง แต่ไม่นิยมกัน เพราะมุมไม่สวย ดังนั้นผานกแอ่นจึงเป็นทางเลือกที่ไร้คู่แข่งของการชมพระอาทิย์รับอรุณเหนือยอดภูกระดึง แต่ต้องลุ้นทะเลหมอกด้วยนะครับ เพราะโอกาสเกิดขึ้นไม่บ่อยนัก เพราะสภาพอากาศเมืองไทยมันแล้งขึ้นเยอะ พอน้ำเยอะก็เยอะจนท่วมไปหมด
ระวังช้างป่า
แนะนำเรื่องสำคัญนิดนึงว่า ให้ระวัง ช้างป่า เพราะ ในช่วงหลายปีหลังมีช้างป่าเข้ามาบริเวณที่เป็นเส้นทางไปผานกแอ่นบ่อยครั้ง ดังนั้นระหว่างทาง ควรจะเดินตามเจ้าหน้าที่ หรือเกาะกลุ่มกันเข้าไว้
เห็นช้างเชื่องๆ เดินตามถนนในกรุงเทพฯ อย่าได้ตายใจ เข้าหาช้างป่าเป็นอันขาด อย่าตะโกนเสียงดัง รวมทั้งอย่าถ่ายรูป เพราะแฟลชอาจตบแสงใส่หน้า ทำให้ช้างตกใจทำร้ายได้ โดยที่หลายคนไม่รู้ก็คือ หนึ่งในสัตว์ที่วิ่งเร็วที่สุดในป่าเมืองไทย ก็คือ ช้าง นี่ล่ะครับ เจอแล้วค่อยๆ เดินถอยหลังออกจากบริเวณนั้น และเลิกล้มแผนที่จะไปทางนั้นเด็ดขาด อย่าประมาทมองเไม่เห็นตัวแล้วคิดว่าช้างไปแล้ว