สุดยอดจิ้นส้มไชยะบุรี

สุดยอดจิ้นส้มไชยะบุรี ผมมาเที่ยวไชยะบุรีสองครั้งจึงพบว่าอาหารที่ผมชอบและเห็นว่าคนที่นี่ก็ชอบด้วยคือจิ้นส้ม แหนมหมูแบบทำ 24 ชั่วโมงกันได้เลย ชาวลาวเรียนจิ้นหมูส้ม ทำใส่กระด้งโรยพริก เวลากินจิ้มข้าวเหนียวร้อน กินหมกตุ่นไปด้วย ก็สุดยอดมาก ร้านที่ผมชอบอยู่ในตลาดไชยะบุรี ขายตอนเช้าเท่านั้น เข้ามาจากถนนใหญ่จะอยู่ขาวมือก่อนถึงตัวอาคารที่ขายส้มตำเยอะๆ มีขายแค่ช่วงเช้าเดี๋ยวเดียวหมด ลองกินให้ได้โครตอร่อยเลยท่าน mr.hotsia พ.ค. 2556

Read More



โรงแรมที่พักในไชยบุรี

โรงแรมที่พักในไชยะบุรี แนะนำโรงแรมในไชยะบุรีสักนิด หากเป็นในตัวแขวงตัวเมืองไชยะบุรีให้พักย่านแม่น้ำฮุงตอนผมไปครั้งแรกผมพักนกน้อยเกสเฮ้าส์ ครั้งสองพักที่โรงแรมไชอนันต์ซึ่งน่าจะใหญ่สุดในแขวง พักโซนนี้หาของกินง่ายเดินเล่นสะดวกไปตลาดก็เดินไปได้ไม่ไกลมาก ที่พักสาผมแนะให้พักข้างตลาดเลย เมืองหงสาไม่ใหญ่ที่พักไม่มากคืนละ 400 ประมาณนี้ ส่วนปากลายพักให้ติดริมน้ำเข้าไว้วิวสวย ตอนผมไปพักที่จินนี่เกสเฮ้าส์ ส่วนเมืองเงินตรงข้ามด่านห้วยโก๋นพักให้ติดตลาดเพราะตอนเช้าต่อรถไม่ต้องเดินไกลครับ ตอนผมไปพักห่างนิดแต่ผมก็เดินไปครับ ผมพักอยู่ก่อนถึงตลาดสัก 400 เมตร ในตัวเมืองไชยะมีของโรงแรมไม่มากนัก ไม่มีการจองล่วงหน้าผ่านอโกด้า ผมยังไม่เห็นนะครับ แต่ต่อไปงานช้างจัดในตัวเมืองตลอด ไม่กระจายไปเมืองหงสา ปากลาย อาจทำให้การท่องเที่ยวของตัวเมืองไชยะโตเร็วขึ้นโรงแรมมากขึ้น ช่วงนี้ท่านไปก็พักที่ไชอนันต์ไปก่อนครับสำหรับในตัวแขวง mr.hotsia พ.ค. 2556

Read More



ตำลาว ไชยบุรี

ส้มตำลาวไชยบุรี Mr.Hotsia เดินทางเที่ยวลาวมาหลายที่ และชอบกินส้มตำหรือที่คนลาวเรียกตำส้มเป็นที่สุด และแล้วผมก็มาถูกใจกับตำส้มที่ตลาดไชยบุรีครับ ขนาดบอกไม่ใส่แป้งนัวยังอร่อยสุดๆเลย เมื่อกินกับซี่โครงหมูติดมันย่าง ยิ่งอร่อยมากๆ ผมขอยกให้เป็นส้มตำลาวที่อร่อยสุดๆที่หนึ่งเลยครับ ปกติตำลาวในประเทศไทยจะใส่น้ำปลาแดกแต่จะทำให้สุกโดยการนึ่งก่อน แต่ที่ไชยบุรีผมคาดการว่าไม่ได้นึ่งก่อน จึงทำให้ตำส้มเขาอร่อยมากๆ อยากให้มาชิมกันครับ ที่อื่นๆในลาว ส่วนใหญ่อร่อยทั้งนั้น Mr.Hotsia พ.ย. 2554

Read More



ตลาดเย็น ตลาดเช้า ไชยบุรี

ตลาดเย็น ตลาดเช้า ไชยบุรี เดินทางท่องเที่ยวมาถึงไชยบุรี รู้สึกถูกใจตลาดเย็นและตลาดเช้าของที่นี่ครับ เพราะผมชอบแบบชาวบ้านๆ ที่ปูใบตองขายกันเป็นกองๆ ไชยบุรีอยู่ในป่าในเขา ของที่มาขายจึงเป็นธรรมชาติล้วนๆ ผักสด ปู ปลา ก็หาจากท้องนาในแม่น้ำมาวางขายกัน ทำให้เป็นตลาดที่น่าเดินเล่น ผมเองทีแรกไม่ได้ซื้อของแค่เดิน แต่พออีกวันมาพักที่นกน้อยเกรสเฮาส์ ซึ่งให้ทำอาหารกินเองในครัวได้ ผมจึงซื้อเห็ดลมโลละ 80 บาท ไปผัดกินอย่างอร่อยเล้ยยย ไปเที่ยวตลาดอื่นไม่ค่อยได้เห็นกระจงบ่อยนัก มีที่ตลาดเย็นอัตตะปรือครั้งหนึ่ง และมาครั้งนี้มาเจอแบบเต็มๆ ผมจึงจับขึ้นมาถ่ายรูปครับ ตัวยังอุ่นๆอยู่เลย ผมไปเจอตอนบ่ายๆ ก่อนตลาดเย็นจะเริ่ม คงวางแค่ไม่นานคนก็ซื้อไปยกตัวครับ คนลาวเรียกกระจงว่าอีไก๊ หรือตัวไก๊ครับ จุดที่เจริญและน่าพักของไชยบุรี ไม่ได้อยู่แถวตลาดนะ แถวนั้นมีที่พักเหมือนกันแต่ไม่ค่อยสะอาด ไม่แนะนำให้พักแถวนั้น แต่ให้ไปพักแถวหน้าห้องว่าการแขวง มีนกน้อย กะ โรงแรมไชยอนันต์ Mr.Hotsia พ.ย. 2554

Read More



ตลาดเช้าท่าแตงแขวงเซกอง ลาว

ตลาดเช้าท่าแตงแขวงเซกอง ลาว เมืองท่าแตงขึ้นอยู่กับแขวงเซกอง เป็นเมืองที่อยู่ระหว่างปากซอง เซกอง สาละวัน ที่นี่มีคนเวียดนามไปเปิดร้านหลายร้าน เมืองไม่ใหญ่มาก มีที่พักไม่กี่แห่ง ไม่มีรถมอเตอร์ไซค์ให้เช่า ราคาที่พักคืนละประมาณ 300 บาท ที่ท่าแตงยังไม่ร้อนเพราะห่างจากปากซองแค่ 30 กิโลเมตร คนเลยมาอยู่ที่นี่กันมากเพราะอากาศเย็นสบาย ผมขี่มอเตอร์ไซค์มาถึงท่าแตงช่วงเช้าได้ทันเดินเล่นตลาดเช้านิดหน่อย ตลาดเช้าไม่มีอะไรพิเศษดีอย่างเดียวคืออากาศหนาวเย็นสบายมาก เลยจากเมืองท่าแตงไปประมาณ 4 กิโลเมตรทางไปทางสาละวัน ทางซ้ายมือจะมีหมู่บ้านชนเผ่าที่เขาจัดให้อยู่ ให้นักท่องเที่ยวไปเที่ยวได้ แต่ผมไปแล้วไม่ค่อยมีอะไรน่าสนใจ สู้ไปดูแบบธรรมชาติที่ไม่เคยมีนักท่องเที่ยวมาเที่ยวที่ดากจึงไม่ได้ สำหรับผมหลังจากเดินเล่นที่ตลาดแล้วก็มากินเฝ๋อ หาข้อมูลชวนชาวบ้านคุย แล้วขี่รถไปเที่ยวบ้านชาวเขาซึ่งห่าง 4 กิโลเมตร แล้วไปเที่ยวเมืองรอบนอกไปเรื่อยๆ ที่เมืองนี้มีตำรวจด้วยนะครับ ขี่มอเตอร์ไซค์ควรใส่หมวกกันน๊อคด้วย นอกจากกันไม่ให้น๊อคแล้วตำรวจจะได้ไม่จับ ซึ่งปกติเขาไม่ค่อยยุ่งกับนักท่องเที่ยวอยู่แล้วครับ mr.hotsia ธันวาคม 2553

Read More



เจอระเบิดที่ท่าแตง แขวงเซกอง

Mr.Hotsia เจอระเบิดที่ท่าแตง แขวงเซกอง ตอนไปเที่ยวที่เชียงขวางตอนนั้นเห็นระเบิดลูกโตๆริมถนนหนทางไปหมดก็เขียนเรื่องเมืองระเบิดเชียงขวางไป ได้ไปคุยกับ uxo คนที่ทำงานกู้ระเบิดก็ตื่นเต้น มาวันนี้ไปเที่ยวที่ท่าแตง ก่อนมาได้ข่าวมาแล้วว่าที่ท่าแตงแขวงเซกองเนี่ยทำลายระเบิดไม่ถึงเป้า ตามเป้าตรวจตรวจให้ได้ 200 เอเคอร์แต่ทำได้แค่ 80 เอเคอร์ในปี 2553 ผมคิดว่าเที่ยวอยู่ในเมืองไม่ได้ไปป่าเขาคงไม่เป็นอะไรคงไม่เจอระเบิดแน่นอน มาเที่ยวที่ท่าแตงพอแดดร้อนไม่รู้ทำอะไรก็ใช้สูตรเดิมสระผมหาข่าว แต่ครั้งนี้ได้ข่าวใหญ่กว่าเดิมไม่ใช่แค่เส้นทางไปไหนไปอย่างไรธรรมดาๆ แต่เป็น “มีระเบิดอยู่หลังข้อย จั๊กบ่ฮู้ สิเฮ็ดแนวไหนดี?” สัญชาติญาณไทยมุงในสายเลือดออกมาทันทีเลยครับ ตามไปดูไปถ่ายคลิปมาให้ชมกัน ก็ไม่รู้ว่าเป็นระเบิดรุ่นไหน อย่างไร แต่น่าจะเป็นระเบิดครับ ผมก็แนะนำให้เขาไปแจ้งผู้ใหญ่บ้านป่านนี้คงแจ้งไปแล้วมั้ง จากการพูดคุยทราบว่าที่ท่าแตงนี้เป็นพื้นที่ที่มีระเบิดมาก และได้รับการตรวจทำลายไปเฉพาะโซนหน้าบ้านส่วนหลังบ้านยังไม่ได้ตรวจทำลาย เมื่อมีอะไรไปโดน วัวบ้าง ไก่บ้าง ก็โผล่ขึ้นมาได้ ผมได้มีโอกาสคุยกับเจ้าหน้าที่ทราบว่าปี่ 2553 ก็มีคนโดนระเบิดหลายคน แต่ส่วนใหญ่เกิดตอนไปขุดไร่นา หรือปลูกยางไปเจอก็ตูม บาดเจ็บตายไป ดังนั้นใครมาเที่ยวลาวอย่าเที่ยวไปเดินในที่ที่เขาไม่ได้ผ่านการตรวจนะอาจเจอดีได้ เราก็ไม่รู้ใช่ไหมว่าตรงไหน เอาเป็นว่าตรงไหนมีคนเที่ยวคนเดินแล้วก็ไปตามนั้น ไปตามป่าแวะฉี่ห้องน้ำไม่ต้องอายมากเข้าไปลึก เดี๋ยวตูมเลยครับ mr.hotsia ธันวาคม 2553

Read More



เดินทางเซกองไปด๊ากจึง

การเดินทางไปดากจึง(ดั๊กจึง ดักจึง) การเดินทางมาเมืองด๊ากจึงวันนี้ยังคงยากไม่ต่างจากเดิมมากนัก แต่ด้วยเมืองนี้มีอะไรหลายอย่างที่น่าท่องเที่ยวรวมทั้ง ชาวชนเผ่าเตรียง ที่บ้านน้ำซวงเมืองด๊ากจึง ทำให้ผมดั้งด้นเดินทางไปจนสำเร็จ สำหรับการเดินทางไปเมืองด๊ากจึง หากเริ่มจากไทยก็ต้องออกที่ด่านอุบลที่ช่องแมก แล้วนั่งรถมาปากเซ จากปากเซนั่งรถมาลงที่เซกอง ซึ่งมาเช้าถึงบ่ายๆครับ จากนั้นก็ไปรอรถที่ท่าบั๊คหรือท่าเรือข้ามฝากแม่น้ำเซกองเพื่อไปเมืองดากจึง ที่อยู่หางจกตรงนี้ไปประมาณ 100 กิโลเมตร ส่วนท่าบัคห่างจากท่ารถสัก 3 กิโลเมตรค่ารถจัมโบ้หรือสามล้อคนละ 60 บาท แนะนำว่าพักที่เซกองสักหนึ่งคืนจะได้ไม่เหนื่อยไปเพราะการเดินทางไปต้องใช้เวลา 4-5 ชั่วโมง หากเป็นหน้าฝนไม่ควรมาเลยเสียงอันตรายตกเขา และอาจต้องนอนกลางป่าอาจใช้เวลาหลายวันไปถึง ถนนเส้นนี้เป็นถนนที่กำลังก่อสร้างเป็นเส้นทางจากเซกองไปถึงดานังเวียดนามจะเสร็จปี 2016 ครับ ทางเลยมาค่อยดีมีการเปิดให้ไปบางช่วงเวลา จะมีรถที่ประจำทางแต่ไม่ได้จดทะเบียนเสียภาษีดังนั้นจึงไม่มีหลังคาและไม่ออกตรงเวลา คือจะออกเวลาไหนก็ได้ ต้องไปดักรอที่ท่าบั๊กเอง ส่วนใหญ่จะมีช่วงตั้งแต่ 7-9 โมงเช้า ให้ไปรอได้เลยมีทุกวัน รถประจำทางแบบรถหกล้อใหญ่ๆ คนจะหลายคนหน่อยเบียดเสียดกันบ้างครั้งและต้องเตรียมที่ปิดจมูกไปด้วยจะได้ไม่กินฝุ่นตลอดทางเราเตือนท่านแล้วนะ อีกทางเลือกหากโชคดีก็จะมีรถของบริษัทที่เขาไปทำงานที่เมืองด๊ากจึง ก็ขออาศัยเขาไปด้วยโดยช่วยค่าน้ำมันเขาประมาณ 240-300 บาท หากเป็นรถของโคลงการแคร์ซึ่งรถจะดีมิดชิดกันฝุ่นได้ จะได้ฟังเพลงไปตลอดทางเพราะพี่เขาชอบฟังเพลง ไปถึงที่ด๊ากจึงแล้วก็ไปที่พักเป็นบ้านชาวบ้านธรรมดาห้องน้ำรวมกันด้านล่าง หนาวมากไม่จำเป็นก็ไม่ต้องอาบน้ำก็ได้ อย่างผมไปเนี่ยอาบครั้งเดียว ที่พักอยู่กลางหมู่บ้านใครๆก็รู้จักคืนละ 200 บาท ผ้านวมอย่างหนาเพราะหนาว มีห้องสามสี่ห้อง หากเต็มก็นอนกลางบ้านแบบผมซึ่งรับได้อีก 4-5 คน หากเต็มก็ไปนอนบ้านอื่นมั้ง แถวนี้เขาชาวบ้านคุยกันได้หมดครับ ตามระเบียบที่ตำรวจแจ้งผมตอนไปเที่ยว…

Read More



ชาวเผ่าเตรียงที่เมืองด๊ากจึง

ชาวเผ่าเตรียงที่เมืองด๊ากจึง(ดากจึง,ดั๊กจึง)“ชาวเผ่าเตรียง” อ่านว่า “ตะ เรียง” ไม่ใช่ชาวเผ่ากะเหรียงทั้งภาษาพูดก็ต่างกัน ชาวเตรียงใช้ภาษาด๊ากกังในการการพูดเท่าที่ผมลองฟังดูผมว่ามีภาษาที่คล้ายๆไทยอยู่หลายคำ แต่ก็ฟังไม่ออกว่าเขาพูดอะไรกันชาวเผ่าเตรียงมีอยู่มากที่แขวงเซกองประเทศลาว โดยเฉพาะที่เมืองด๊ากจึงเป็นชาวเตรียงเกือบทั้งหมด(แต่ยังมีเผ่าอื่นๆอีกสามเผ่า) ผมได้มาเที่ยวที่เมืองด๊ากจึงแบบโชคดี ได้ข้อมูลจากคนลาวบอกว่าเมืองนี้ไปยากมาก อาจต้องนอนกลางป่าหลายคืนกว่าจะเข้าถึงได้ ทำให้ผมอยากมามากในที่สุดผมก็เดินทางมาถึงได้สำเร็จ หมู่บ้านที่เจ้าหน้าที่ของห้องการโฆษณาและวัฒนธรรมของลาวได้พาผมมาคือบ้านด๊ากซวง เมืองด๊ากจึง อยู่ห่างจากเมืองด๊ากจึงประมาณ 4 กิโลเมตร ขี่มอเตอร์ไซค์ประมาณ 40 นาที ทางเป็นทางลำบากนิดหน่อยข้ามน้ำสี่ห้าลำห้วย แต่ก็มาถึงได้ด้วยรถมอเตอร์ไซค์ธรรมดาไม่ใช่รถวิบาก บ้านด๊ากซวงมีอยู่ประมาณ 30 หลังคาเรือน มีคนน่าจะหลายร้อยคน ข้างๆหมู่บ้านมีน้ำธรรมชาติเป็นแหล่งน้ำสำคัญใช้บริโภค กิน อาบ ซักผ้า ทำอาหาร เลี้ยงสัตว์ เขามีอาชีพทำไร่ปลูกมันพอมีพอกินพอเพียงไปแต่ละวัน ใช้ชีวิตเรียบง่ายตำข้าวกินเอง ได้สารอาหารจากข้าวครบอายุยืน มีคนที่นี่บอกผมว่าอายุ 150 ปี ผมไม่ค่อยแน่ใจนะเพราะว่าเขาไม่มีการจดว่าเกิดปีไหนแค่ประมาณเอาครับ ข้าวที่เขากินเขาก็จะปลูกเองเป็นข้าวเม็ดกลมๆแบบข้าวดอยข้าวญี่ปุ่น ทุกคนทุกบ้านจะต้องตำข้าวกินกันเองตำแล้วนำไปฝัดแยกเปลือกแล้วก็ไปตำอีกจนหมดเปลือก แล้วจึงนำมาหุงเป็นข้าวที่อุดมด้วยสารอาหารที่นี่ไม่มีเครื่องสีข้าวแบบบ้านเราครับ เรื่องอาหารหลักคือผักต้มใส่เกลือและพริกลงไป ในหนึ่งอาทิตย์จะได้กินเนื้อสัตว์หนึ่งครั้งก็พวกไก่หมูที่เลี้ยงไว้ ส่วนรายได้เขาไม่มีครับเสื้อผ้าที่เขาใส่ได้มาจากการเอาผักไปขายในตลาดได้เงินมาก็ซื้อเสื้อผ้าใส่อย่างอื่นไม่ห่วงเพราะหาจากป่าหรือปลูกได้แต่ผ้านี่จำเป็นมากของพวกเขา นี่เป็นสิ่งที่คนที่พาผมไปเล่าให้ฟังเขาก็เป็นชาวเตรียงเหมือนกัน ชาวเตรียงกินข้าววันละสองมือเท่านั้นคือสายและบ่าย กินเยอะเปลืองและของกินหายากจึงต้องกินน้อยๆ ดูจากที่เห็นก็รู้แล้วว่าไม่ค่อยมีผ้าใส่กันเด็กๆนี่ไม่ต้องใส่เสื้อผ้าโตหน่อยถึงได้ใส่ เผ่าเตรียงที่ผมไปนี้ไม่เคยมีนักท่องเที่ยวมาถึง เคยมีเจ้าหน้าที่จากญี่ปุ่นมาทำวิจัย 1 ครั้งมากัน 6 คน เป็นคนที่พาผมไปเล่าให้ฟัง บ้านของชาวเตรียงเป็นไม้ทั้งหลังมุงหลังคาด้วยหญ้า คล้ายๆกับบ้านชาวเขาที่เมืองคอนตูม คือบ้านจะหลังคาสูง…

Read More



เมืองด๊ากจึง เซกอง

เมืองดากจึง(ดากจึง,ดั๊กจึง,ด๊ากจึง) เมืองด๊ากจึงเมืองชายแดนเวียดนาม อยู่ที่แขวงเซกอง แขวงเซกองหรืออีกชื่อคือเมืองละมาน เมืองด๊ากจึงเป็นอีกเมืองหนึ่งซึ่งจะเป็นเมืองเอกของเซกองในอนาคต เมืองด๊ากจึงมีข้อมูลในเน็ตน้อยมาก แค่ชื่อก็ยังสับสนเสียแล้วว่าจะชื่ออะไรกันแน่ ระหว่าง ดั๊กจึง ดากจึง ด๊ากจึง ดักจึง ผมก็ไม่รู้จะเรียกคำไหน หลังจากผมหาข้อมูลจากวิกิพีเดียว ที่มีคนพูดถึงภาษาด๊ากกัง ที่เป็นภาษาประจำเผ่าเตรียง ชาวเตรียงที่มีอยู่มากที่แขวงเซกอง โดยเฉพาะเมืองด๊ากจึง ดังนั้นน่าจะใช้คำว่า “ด๊ากจึง” ครับ เพราะว่าคำว่าด๊ากเป็นภาษาเตรียง(อ่านว่าตะ-เหรียง) แปลว่าน้ำ แม่น้ำในเวียดนามหลายสายผมก็เห็นขึ้นต้นด้วยคำนี้ อาจมีที่มาจากเป่าเตรียงก็ได้ เมืองด๊ากจึงอยู่ห่างจากเมืองตะมานแขวงเซกองประมาณ 100 กิโลเมตร (ดูการเดินทางไปเมืองด๊ากจึง) การเดินทางสมัยก่อนต้องใช้เวลาเป็นอาทิตย์กว่าจะเข้าถึงเมืองนี้ได้ แต่ทุกวันนี้ทำถนนใกล้เสร็จแล้ว ใช้เวลาในการเดินทางประมาณ 4-5 ชั่วโมง หน้าฝนไม่จำเป็นอย่าไปเด็ดขาดใช้เวลาเป็นวันหรือไม่ก็ต้องนอนกลางป่า หรืออาจลื่นตกเขาตายก็ได้ เมืองด๊ากจึงได้ถูกวางไว้ให้เป็นเมืองเอกของเซกอง เป็นเส้นทางที่จะไปเวียดนามได้เร็วที่สุด ไปเข้าเวียดนามไปยังดานัง ไม่ต้องขนของทางเรือมาที่ท่าเรือคลองเตยก็ใช้เส้นทางนี้ทะลุผ่านจากอุบลมาเซกอง มาด๊ากจึง เข้าดานังประเทศเวียดนาม ระยะทางจากชายแดนช่องแมกอุบลราชธานีไปถึงเมืองดานังเวียดนามผ่านเส้นทางนี้ระยะทางตรงเพียง 300 กิโลเมตรเท่านั้น ดังนั้นทางประเทศลาวเขาจึงได้มีการสร้างเมืองขึ้นมาที่นี่โดยทางประเทศเวียดนามมาสร้างให้เป็นเขื่อน เป็นแหล่งท่องเที่ยว และจะให้เส้นทางนี้เป็นเส้นทางหลักในการไปเมืองดานังที่สำคัญอีกเส้นหนึ่งครับ และเมื่อปี 2552 ที่ผ่านมาด่านตรงเมืองด๊ากจึงไปทางชายแดนเวียดนามชื่อว่า “ด่านตะออ” ได้ถูกเปิดเป็นด่านสากลเรียบร้อยแล้ว มี passport ก็สามารถไปเที่ยวเวียดนามเส้นทางนี้ได้เลย สำหรับการท่องเที่ยวที่เมืองด๊ากจึงมีทั้งการท่องเที่ยวแบบธรรมชาติ น้ำตกทั้งที่ค้นพบแล้ว และน้ำตกที่ยังไม่พบผมว่าน่าจะมีอีกเยอะ…

Read More



สถานีขนส่งเชียงขวาง (โพนสวรรค์-โพนสะหวัน)

สถานีขนส่งเชียงขวาง (โพนสวรรค์-โพนสะหวัน)แขวงเชียงขวางเป็นแขวงใหญ่ทางทิศตะวันออกของลาว เมืองโพนสวรรค์(โพนสะหวัน)เสมือนเป็นเมืองหลวงของแขวงเชียงขวาง เนื่องจากที่โพนสวรรค์มีทุ่งไหหิน ที่นักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางมาท่องเที่ยวกัน สถานีขนส่งของเชียงขวางหรือโพนสวรรค์ที่ผมแนะนำเป็นสถานีหลักที่ท่านต้องใช้เวลาเดินทางด้วยรถประจำทางมาเที่ยวทุ่งไหหินสถานีขนส่งเก่าของโพนสวรรค์จะอยู่ในเมืองติดกับโรงแรมเชียงขวาง ส่วนสถานีขนส่งแห่งไหม่อยู่ห่างจากเมืองเข้าไปทางหลวงพระบาง 4 กิโลเมตร รถที่จะไปซำเหนือและรถระยะสั่นๆ ยังคงออกจากสถานีขนส่งสายเก่า ส่วนรถระยะไกลจะจอดสถานีขนส่งสายใหม่ทั้งหมด ตอนที่ผมนั่งรถจากเชียงขวางรถจะออกจากขนส่งเก่าและไปจอดที่ขนส่งใหม่อีกครั้งหนึ่ง รถไปซำเหนือ : จากสถานีโพนสวรรค์จะมีรถไปซำเหนือทุกวัน ค่ารถโดยสารจากเชียงขวางไปซำเหนือคนละ 240 บาท ใช้เวลาเดินทาง 8 ถึง 10 ชั่วโมง รถออกเวลาประมาณ 8 โมงเช้าไปถึงซำเหนือประมาณ 17.00 น. และรถเที่ยว 19.00 น. ไปถึงซำเหนือเช้า รถเที่ยวค่ำนี้เป็นรถที่มาจากเวียงจันทน์ไม่ได้ออกจากซำเหนือโดยตรง รถไปเวียงจันทน์ หลวงพระบาง : รถธรรมดาจากโพนสวรรค์ไปเวียงจันทน์ราคาคนละ 300 บาท ใช้เวลาเดินทาง 11 ชั่วโมง รถออกเวลา 9.30 น. และ 16.00 น. ส่วนรถวีไอพี ราคาคนละ 340 บาท ใช้เวลาในการเดินทาง 11 ชั่วโมงเท่ากัน รถออกเวลา 07.30 น.ทุกวัน…

Read More