จังหวัดลายเจิว (Lai Chau)

เป็นจังหวัดพื้นที่ชายแดนของตะวันตกเฉียงเหนือของ เวียดนาม ตอนเหนือติดสาธารณรัฐประชาชนจีน ตะวันตกและตะวันตกเฉียงใต้ติดเดียนเบียน ตะวันออกของติดลางไก(Lao Cai) ตะวันออกเฉียงใต้ติดเย็นไบ๋(Yen Bai) จังหวัดลายเจิว(Lai Chau) ตั้งอยู่ในทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเวียดนาม ตั้งอยู่ 450 กม. จากกรุงฮานอยไปทางทิศเหนือ ภูมิประเทศเป็นภูเขามีที่ราบบ้าง จังหวัดลายเจิว(Lai Chau)มีสภาพภูมิอากาศที่ค่อนข้างร้อนอบอ้าว อุณหภูมิเฉลี่ยทั้งปีอยู่ที่ประมาณ 21 ° การท่องเที่ยวทางวัฒนธรรม จังหวัดลายเจิว(Lai Chau)มี 20 กลุ่มชาติพันธุ์ มีชีวิตทางวัฒนธรรมแบบดั้งเดิม จังหวัดลายเจิว(Lai Chau) มีเขาสูง 1,500 เมตร มีเมฆ หมอกสี่ฤดูกาล ในที่สูงหุบเขาที่ไม่ใช่ในตัวเมืองอากาศบริสุทธิ์เย็นสบายตลอดทั้งปีเช่นที่ราบสูงบาปโฮจังหวัดลายเจิว(Lai Chau) มียอดเขาสูงหลายแม่น้ำน้ำตกเป็นจำนวนมากเช่นยอด Fansipan (3.143m)มีน้ำพุร้อน น้ำแร่ ที่ท่องเที่ยวอันดับหนึ่งที่การท่องเที่ยวเวียดนามแนะนำคือ “sin ho” เป็นหมู่บ้านชาวเขา มีความสวยงามเพราะมีหมอกที่ดูงาม นักท่องเที่ยวนิยมมาเที่ยวตลาดนัดวันอาทิตย์ (Sunday market) นอกจากนี้ยังมีถ้ำ Tien son (Tien son cave) อยู่ในอำเภแ Tam Duong ในจังหวัดลายเจิวมีเทศกาล Xen…

Read More



เดินเล่นในเมืองเว้

เดินเล่นในเมืองเว้ เสน่ห์ของเว้อย่างหนึ่งคือแม่น้ำหอม ซึ่งจะมีเรือหัวมังกรให้บริการนักท่องเที่ยวเพื่อไปชมพระราขวังเก่าเว้(ไม่ไกลครับเดินไปได้) หรือไปชมสุสานจักรพรรดิ หรือล่องเรือเล่นชมวิวทิวทัศน์ ที่ริมแม่น้ำหอมตรงสะพานข้ามฝั่งหากเราเดินผ่านไปจะมีนายหน้ามาติดต่อให้เรานั่งเรือเล่นราคาขึ้นอยู่กับการต่อรอง หรือจะนั่งเรือข้ามฝากไปตลาดดงบาราคาคนละ 30 บาทก็ได้ ผมขอเน้นเรื่องตลาดดงบาหน่อยละกันเพราะว่าตลาดนี้มีคนไทยมาเที่ยวหลายคน จนกระทั้งแม่ค้าที่ตลาดดงบาพูดภาษาไทยได้เลยครับ ดังนั้นหากมาเที่ยวที่ตลาดนี้ต้องระวังเวลาพูดคุยด้วยแม่ค้าเขาเข้าใจที่เราพูดนะครับ ตลาดดงบามีของฝากที่เหมาะสำหรับซื้อกลับไปไทยแลนด์บ้านเรา และราคาที่นี้ต่อรองได้เยอะครับ อย่างหมวกเวียดนามเนี่ยสามารถซื้อได้ 9-10 ใบร้อยบาท แต่ต้องดูคุณภาพนะเพราะว่ามีของหลายคุณภาพครับ ข้างๆตลาดดงบามีห้างสรรพสินค้าที่สามารถไปเดินสืบราคาดูได้ เวลาไปซื้อของที่อื่นจะได้ไม่แพงกว่าที่ควรจะเป็น ผมเองก็ไปเดินเช่นกันแล้วก็ไปรอคิวกินขนมปังฝรั่งเศสด้วยอร่อยดีครับ การไปเที่ยวตลาดดงบาก็เดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำหอมไปเองได้เลย ไม่ต้องนั่งรถสามล้อหรือมอเตอร์ไซค์ไป เดินเล่นริมน้ำสบายๆเดี๋ยวเดียวก็ถึง เว้เป็นเมืองที่ใหญ่พอสมควรแต่ย่านนักท่องเที่ยวอยู่แถวๆแม่น้ำหอม วังเก่า ตลาดดงบา ในโซนนักท่องเที่ยวยังมีตลาดอีกสองแห่งครับ ไม่ต้องข้ามไปดงบาก็ได้ หรือจะเช่ามอเตอร์ไซค์ขี่เล่นในเว้วันละ 150 ก็ไม่แพง แต่ต้องขี่ระวังหน่อยนะ แถวนี้เขาขี่มอเตอร์ไซค์กันมืออาชีพ และมีรถมากกว่าบ้านเราเยอะ เที่ยวแถวนี้ก็ ok แล้วครับ แล้วหาซื้อทัวร์ไปเที่ยวแบบรายวันเอา mr.hotsia มาราคม 2554  

Read More



เหล้าขาวเดียนเบียนฟู  เวียดนาม

ในการมาเที่ยวเดียนเบียนฟูครั้งแรกผมไปกินอาหารในร้านฝั่งตรงข้ามเยื้องขนส่ง ตอนนั้นยังไม่คุ้นกับการเที่ยวเวียดนามนัก หยิบขวดน้ำที่อยู่บนโต๊ะซดใส่คอเอิกๆๆไปหลายอึก มารู้ตัวก็เข้าไปถึงกระเพาะแล้วว่านั่นคือเหล้าขาวที่คนเวียดนามนิยมกินก่อนอาหารและจะวางไว้บนโต๊ะบริการลูกค้า มาเที่ยวเวียดนามครั้งนี้เลยลองตั้งใจกินให้เข้าถึงชีวิตชาวเดียนเบียนฟู ทำเหมือนเขาดูว่าเป็นอย่างไรบ้าง ผมนั่งกินข้าวช่วงหัวค่ำสั่งอาหารแบบคนเวียดมาหลายอย่าง แล้วกินเหล้าขาวหรือเหล้าเถื่อนแบบเวียดนาม ประทับใจครับเหล้าเดียนเบียนฟูหอมเหลือเกิน กินกับแกล้มแบบชาวเวียดนามเขากินกันนะเข้ากันมาก เต้าหูเวียดนามผัดอย่าพลาดเด็ดขาดครับ หมูลวกจิ้มน้ำจิ้มก็อร่อยครับ มีหมูกรอบผัดถั่วงอก ยำไส้ตันแบบเวียดนาม ทุกอย่างอร่อยหมดเลยครับ สำหรับเหล้าขาวเดียนเบียนฟูผมว่ายังอร่อยกว่าวอสก้าฮานอยที่บรรยุขวดขายอย่างดีเสียอีกครับ ไม่เชื่อไปเดียนเบียนฟูไปลองดูนะ mr.hotsia มกราคม 2556

Read More



เดียนเบียนฟู 2013

ผมมาเดียนเบียนฟูครั้งนี้เป็นครั้งที่ 3 ครั้งแรกแบกเป้ลุยเดี่ยวปี 2007 ครั้งที่สองมากะหลานปี 2011 ครั้งที่สามมาปลายปี 2012 เพื่อตะลุยเที่ยวเวียดนามให้ครบทุกจังหวัดให้ได้ เดียนเบียนฟูครั้งหลัดสุดมีอนุสาวรีย์กลางเมืองบนภูเขาสูง เดินขึ้นไปเที่ยวด้านบนชมวิวเมืองเดียนเบียนฟูสวยงามมาก ตลาดเดียนเบียนฟูยังคงเดิม โรงแรมในเดียนเบียนฟูยังคงต้องกางมุ้งนอนเช่นเดิมครับ เพราะเมืองเดียนเบียนฟูมียุงเยอะ การเดินทางมายังเดียนเบียนฟูในวันนี้ไม่ยุ่งยากเหมือนเดิมแล้ว เพราะมีรถออกจากเมืองไชย หรืออุดมไชยตอนเช้า รถจะมาถึงที่เดียนเบียนฟูตอนเย็นๆถึงมืด ไม่ต้องนอนค้างคืนที่เมืองขวาแขวงพงสาลีอีกต่อไป เพราะว่าสะพานข้ามแม่น้ำอูที่เมืองขวาเสร็จเรียบร้อยแล้ว ถนนหนทางก็ดีกว่าเดิมมาก การเดินทางมาเดียนเบียนฟูจึงสะดวกขึ้น ใครที่จะเดินทางผ่านลาว เดียนเบียนฟูไปซาปาผมว่า ok นะครับเส้นทางนี้ ผมพักที่เดียนเบียนฟูสองวันวันแรกพักที่โรงแรมฝั่งตรงข้ามขนส่งเดียนเบียนฟู ไม่ work เน็ตไม่ดี ที่พักไม่ work นัก คืนที่สองย้ายมาพักในซอยข้างๆขนส่ง โรงแรมชื่อว่า phuong Hien ที่พักไม่แพง เน็ตเร็ว (ดูคลิปที่ http://www.youtube.com/watch?v=hhr1CXvwWbc ) ส่วนเรื่องที่เที่ยวในเมืองเดียนเบียนฟูยังเหมือนเดิมมีอุโมงค์สมรภูมิเดียนเบียนฟูเป็นตัวหลัก และตลาดเช้าตลาดเย็นที่มีชาวไทดำเยอะเป็นตัวดึงดูดให้มีสีสันครับ สำหรับการมาครั้งที่สามผมเดินทางต่อไปยังเมืองเซิลลา (son la) วิวภูเขาของเวียดนามเหนือสวยงามมาก อีกความประทับใจของผมที่เดียนเบียนฟูคือ ได้ไปกินเหล้าขาวเดียนเบียนฟูครับ กับแกล้มแบบชาวบ้านๆ เดียนเบียนฟู ร้านที่อยู่บนถนนฝั่งตรงข้ามขนส่ง อร่อยและประทับใจครับผม ที่เดียนเบียนฟูมีร้านขายซิมสามจีด้วย สามารถซื้อใน shop ของ vina…

Read More



เดียนเบียนฟู 2015

ผมเดินทางมาเที่ยวเดียนเบียนฟูหลายครั้ง เพราะเป็นทางผ่านไปยังซาปา ครั้งแรกที่มายังจำได้นั่งกินอาหารที่โต๊ะแล้วกินน้ำที่บนโต๊ะมันคือเหล้าขาวหรือเหล้าข้าวสารเดียนเบียนฟู วันนี้เดียนเบียนฟูมีโรงแรมรองรับนักท่องเที่ยวที่อยู่ในซอยติดกับขนส่ง โรงแรมดีและถูก เน็ตเร็ว ร้านอาหารฝั่งตรงข้ามขนส่งยังคงอร่อยเหมือนเดิมเมื่อสิบปีที่แล้ว ต่างไปตรงที่คนเดียนเบียนรู้จักนักท่องเที่ยวมากขึ้น มีร้านนวดให้บริการนักท่องเที่ยวด้วยแล้วในวันนี้ (ร้านคอสะพานเดินไปอนุสาวรีย์) การเดินทางไปเดียนเบียนฟูสมัยก่อนต้องมาต่อรถที่เมืองขวา แขวงพงสาลี ประเทศลาว สมัยดีง่ายสามารถต่อรถได้จากสถานีขนส่งอุดมไชย และยิ่งกว่านั้นคือนั่งรถจากหลวงน้ำทาเที่ยวเช้าจะมาถึงเดียนเบียนฟูยามเย็น มาเที่ยวเดียนเบียนฟูและเวียดนามเหนือครั้งนี้มีคนถามผมบ่อยว่าเป็นคนอะไร ผมรู้สึกว่าคนเวียดนามเหนือจะไม่มีความรู้สึกที่ดีกับคนจีนมากนัก หากเขารู้ว่าเราเป็นคนไทยไม่ใช่คนจีนเขาจะดีต่อเรามาก หากเป็นคนจีนผมไม่รู้ ผมขอแนะนำให้พักที่โรงแรม “Khach San Ban rom” โรงแรมน้ำรอม อยู่ห่างจากสถานีขนส่งไปทางอนุสาวรีย์ 200 เมตร ตรงคอสะพานฝั่งอนุสาวรีย์ โรงแรมนี้ผมเคยมาพักเมื่อสิบปีก่อนหน้านี้ สมัยนั้นยังไม่ปรับปรุง กางมุ้งนอนมียุเยอะ สมัยนี้ปรับปรุงใหม่ดีดีมาก ห้องแอร์ น้ำอุ่น ชึ้นล่างสุดด้านหลังโรงแรมเป็นร้านนวดแบบเวียดนาม ชั่วโมงละไม่กี่ร้อยบาท แก้เมื่อยหลังเดินทางมาเหนื่อยๆ จากประเทศลาว ชื่อโรงแรมน้ำลอม(Nam Rom hotel) เป็นโรงแรมเก่าที่ปรับปรุงใหม่หมด สมัยก่อนผมเคยมาพักที่นี่เมือง 10 ปีที่แล้ว เป็นมุ้งอยู่เลยครับ ตอนนี้ทำดีราคา 450 บาท ห้องสองเตียง สอาด เน็ตเร็ว อยู่ไม่ไกลจากขนส่ง หากมาจากขนส่งให้เดินมาทางอนุสาวรีย์สูงที่อยู่บนภูกเขา โรงแรมอยู่ริมแม่น้ำ วิวสวย มีบริการนวดที่ด้านหลังโรงแรมด้วยชั่วโมงละ 200…

Read More



โรงแรม ที่พัก เกสเฮ้าส์ในเว้

โรงแรม ที่พัก เกสเฮ้าส์ในเว้ เที่ยวเว้จะพักที่ไหน? ราคาที่พักในเมืองเว้ราคาเท่าไร? แนะนำที่เกรสเฮ้าส์ในเว้ให้หน่อย? mr.hotsia มีคำแนะนำให้ครับ  ราคาที่พักที่เว้อยู่ที่ห้องละ 300 บาท หรือ 10 USD ราคานี้เป็นห้องแอร์อย่างดี มีน้ำอุ่น WIFI ไม่มีอาหารเช้า ซึ่งทุกที่พัก โรงแรม หรือเกรสเฮ้าส์จะขายราคาใกล้เคียงกันหมด หากจะต่อรองราคาก็จำราคานี้ไว้ (มกราคม 2554) ย่านที่พักอยู่ไม่ไกลจากริมแม่น้ำหอม คลิกดูที่ google map ได้ครับ พักย่านนี้เดินไปสะพานข้ามแม่น้ำหอม เดินไปตลาดดงบา พระราชวังเก่าเว้ได้สบายๆ ไม่ต้องนั่งรถสามล้อหรือมอเตอร์ไซค์ไปให้เสี่ยงโดนฟันเรื่องราคา ส่วนที่ mr.hotsia ขอแนะนำคือโรงแรม DMZ ครับ คืนละ 300 กว่าบาท หากหลายคืนก็ต่อลองได้อีก ที่นี่น้ำแรง อินเตอร์เน็ต WIFI เร็วสุดๆ ดู youtube และ upload youtube ไม่มีสะดุดครับ อย่างหนึ่งที่ต้องสำรวจก่อนตกลงพักที่ไหนคือน้ำครับ ว่า ร้อน แรง อุ่นได้ที่ไหม เพราะผมเคยเจอบางที่มีแต่เย็นกะร้อนน้ำอุ่นไม่มีไม่มีความพอดี เรื่อง…

Read More



เดินทางจากเดียนเบียนฟูมาซาปา

การเดินทางมาเที่ยวซาปาผ่านทางเดียนเบียนฟู เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับผู้มีเวลามาก เพราะจะได้แวะเที่ยวเมืองต่างๆระหว่างทางมาด้วย สำหรับการเดินทางมาจากประเทศไทย ผมใช้เส้นทางเชียงของ ข้ามมาทางห้วยทราย แล้วนั่งรถประจำทางมาอุดมไชย พักอุดมไชย 1 คืน นั่งรถจากอุดมชัยมายังเมืองขวา แขวงพงสาลีในวันรุ่งขึ้น จากเมืองขวานั่งรถไปเดียนเบียนฟูเช้ามืดพักเที่ยวเดียนเบียนฟูวันสองวัน แล้วถึงเดินทางมายังซาปาเวียดนามหนือ รถจากเดียนเบียนฟูมาซาปาจะออกวันละครั้ง เป็นรถมินิแวน 20 ที่นั่ง ออกเวลาประมาณ 6.30 น. ไม่มีรถกลางคืน เวลาซื้อตั๋วให้ไปซื้อตั๋วหน้าขนส่งเดียนเบียนฟูเลย เจ้าหน้าที่จะออกตั๋วให้ สามารถซื้อล่วงหน้าได้ผมว่าน่าจะ 1 วัน ตอนที่ผมเดินทางมาซาปาผมซื้อตอนเย็นก่อนวันเดินทาง แล้วอีกวันไปขึ้นรถได้เลย ผมเห็นบางคนไม่มีตั๋วแล้วคนเก็บเงินเรียกเก็บเงินตอนอยู่บนรถ อันนี้ไม่ได้ใจเรื่องราคา ระหว่างทางจะผ่านป่าเขาตลอดทาง วิวสวยๆหลายแห่ง รถจะแวะกินมะม่วงระหว่างทาง 1 ครั้ง กินข้าวเที่ยงด้วย อาหารมีให้เลือกทั้งข้าว และเฝอ ที่ร้านอาหารเที่ยงร้านข้างๆคนน้อยกว่า เดินไปซื้อได้ ดูเหมือนไม่วุ่นวายและราคาน่าจะถูกกว่าครับ เมื่อมาถึงซาปาให้เดินไปทางตลาดซาปาซึ่งแหล่งที่พักจะอยู่แถวๆนั้น หากไปไม่ถูกจำไว้ว่า “ดีเจอะเอ๋อเดา” ไปตลาดทางไหน แล้วไปตามมือผู้ที่ชี้บอกทางครับ Mr.Hotsia เมษายน 2554  

Read More



เที่ยวเดียนเบียนฟู

เดียนเบียนฟูเมืองที่คนไทยรู้จักกันดีในเรื่องสมรภูมิรบในอดีต เคยมีหนังไทยเรื่องแหกค่ายนรกเดียนเบียนฟูที่โด่งในที่สมัยก่อนผมเคยดู เดียนเบียนฟูสมัยนี้เป็นเส้นทางที่สำคัญในการเดินทางท่องเที่ยวจากไทยไปเวียดนามเหนือ ซาปา เดียนเบียนฟูยังเป็นเมืองที่มีชาวไทยดำอยู่เป็นจำนวนมาก บ้านเรือนที่ผมผ่านไปล้วนเป็นคนไทยที่พูดกันรู้เรืองเข้าใจ เรียกว่ามาเที่ยวเดียนเบียนฟูไม่มีอดตาย ขอข้าวขอน้ำเขากินได้ครับ การเดินทางมาเดียนฟูจากประเทศไทยให้ใช้เส้นทางด่านผ่านแดนที่เชียงของ จังหวัดเชียงราย แล้วข้ามแดนไปฝั่งห้วยทรายแขวงบ่อแก้ว แล้วนั่งรถจากห้วยทรายไปเมืองไชยแขวงอุดมไชย(4 ชั่วโมง) พักเมืองไชย 1 คืน ที่พักอยู่ข้างๆขนส่งคืนละ 200 บาท พอวันรุ่งขึ้นก็ออกก็นั่งรถเที่ยว 8.00 น. จากเมืองอุดมชัยไปเมืองขวา(4 ชั่วโมง) พักเมืองขวาสักคืน พอตอนหกโมงเช้าอีกวันจะมีรถออกไปเดียนเบียนฟูถึงเดียนเบียนฟูบ่ายๆ(7 ชั่วโมง) อ่านข้อมูลเพิ่มเติมเมืองต่างๆทั้งที่พักและที่เที่ยวผมลงให้แล้ว ที่พักที่เดียนเบียนฟูมีโรงแรมและเกรสเฮาส์หลายแห่ง สามารถใช้บริการจองที่พักในเวียดนาม หรือ walk in เข้าพักก็ได้ราคาที่พักที่เดียนฟูอยู่ที่คืนละ 300-500 บาท มีแอร์ wifi มุ้งกันยุงให้ด้วย แต่ผมไปนอนเดียนฟูมาหลายครั้งก็ไม่เห็นเจอหน้ายุงสักตัวนึง สรุปเรื่องที่พัก โรงแรมในเดียนเบียนฟูไม่แพงและไม่ต้องจองล่วงหน้าก็มีเพียงพอ ยกเว้นต้องการจองล่วงหน้าเพื่อนสบายใจครับ เรื่องอาหารการกินของเมืองเดียนฟูจะมีร้านเฝอขายทั่วไป ข้าวข้าวราดกับข้าวมีหลายร้าน ราคาเฝอที่นี่ชามละ 40 บาท ส่วนข้าวเขาคิดเป็นหัว มีอาหารตามสั่งสองสามอย่างตกคนละประมาณ 80 บาทครับ (ตรงด่านผ่านแดนเดียนเบียนฟูคนละ 120 บาท) ผมว่าอาหารที่เดียนเบียนฟูเมืองเทียบกับเมืองไทยก็สูงกว่า ส่วนอาหารเมืองไทยหากเทียบกับเว้ ฮอยอัน ที่ไทยจะราคาสูงกว่าครับ…

Read More



พระราชวังเมืองเว้

พระราชวังเมืองเว้ มาท่องเที่ยวเมืองเว้ ไม่ว่าจะมากับบริษัททัวร์หรือมาเอง สิ่งหนึ่งที่นักท่องเที่ยวต้องไปเที่ยวคือพระราชวังเก่าของราชวงค์เหงียน หรือพระราชวังเก่าเมืองเว้ ที่เว้เขาจะเรียกกันว่า pagoda พาโกด้า (คล้ายๆอโกด้า เว็บจองโรงแรมชื่อดัง) ที่นี่โดนทำลายอย่างไม่มีชิ้นดีช่วงสงครามเวียดนาม เมื่อตัดสินใจจะทำเป็นที่ท่องเที่ยวถึงมาซ่อมแซมที่หลังและยังไม่เสร็จดี ด้านหลังยังเห็นร่องรอยการถูกทำลายอย่างชัดเจนครับ พระราชวังเว้ได้เป็นมรดกโลกด้วยทำให้นักท่องเที่ยวแห่กันมาจากทั่วโลก การเที่ยวพระราขวังเว้มีสองแบบคือซื้อทัวร์ไป สองไปเที่ยวเอง หากมีข้อมูลอ่านมาจากเน็ตก่อนแล้วไปเที่ยวเองก็ได้ครับเสียค่าบัตรผ่านประตู 70 กว่าบาท เข้าไปเที่ยวทางด้านหน้าแล้วทะลุออกด้านหลังวังเลยก็ได้ มีนักท่องเที่ยวไปเที่ยวทุกวันครับที่นี่ ผมแนะนำว่าพักที่พักในเว้โซนที่ผมแนะนำ แล้วเดินไปเที่ยวเองดีที่สุดอยู่ตรงไหนนานไม่นานก็ได้ พระราชวังดูเหมือนจะกว้างกำแพงด้านละครึ่งกิโลเมตร แต่ด้านในมีที่เที่ยวได้จริงๆไม่มากส่วนใหญ่โดนทำลายไปหมดแล้วครับ จุดที่คนไปออกันมากสุดคือหน้าวังที่มีน้ำ มีปลาคราฟสวยนับร้อยตัว ไปให้อาหารดูมันว่ายไปมาสวยครับ หรือจะไปใช้บริการขี่ม้าใส่หมวกแบบราชวงค์ที่นี่ก็ได้ครับ แต่ผมไม่ได้ลองนะครับ นอกจากขี่ม้ายังมีบริการเช่าชุดฮ่องเต้ให้ใส่ถ่ายรูปนั่งบนบัลลังก์ด้วย Mr.Hotsia มกราคม 2554

Read More



เมืองหลวงชาวไทยดำ เดียนเบียนฟู

เคยแต่ได้ยินมาว่าที่เมืองเดียนเบียนฟูมีชาวไทยได ที่พูดไทยได้คุยกันเข้าใจอยู่ แม่ผมไม่ได้มีโอกาศที่จะได้คุยเป็นเรื่องเป็นราวสักครั้งหนึ่ง มาเที่ยวเดียนเบียนฟูครั้งนี้ผมเดินเล่นตลาดซึ่งส่วนใหญ่เป็นคนไทยดำ ก็ได้คุยกับแม่ค้าที่ขายของซึ่งเป็นคนไทยดำ ที่เดียนเบียนฟูเขาเรียกว่า “ไตลำ” แล้วก็มาได้ตัดผมที่ร้านได้รู้จักคนไทยดำอีกกลุ่มใหญ่เลยครับ เลยคุยกันใหญ่สนุกสนาน ชาวไทยดำที่เมืองเดียนฟูอยู่กันที่นี่มานานแล้วตั้งแต่สมัยไหนผมไม่ได้ค้นคว้า แต่ค้นไปเจอมาว่าคนไทยดำก็คือลาวโซ่งที่คนไทยรู้จัก เรณุนครก็เป็นที่อยู่ของขาวไทยดำ มีเหล้าอุเรณูที่ผมเคยไปชิมมาแล้ว ชาวไทยดำมีเอกลักษณ์คือเกล้าผมทรงสูง แล้วม้วนเก็บอย่างสวยงาม ที่เดียนเบียนฟูที่เห็นผ่านไปมาหากเห็นเกล้าผมแบบนี้เข้าไปคุยได้เลยครับ ชาวไทยดำที่เดียนเบียนฟูดูสนุกสนานและเป็นมิตรมากๆ พอรู้ว่าเป็นคนไทยพูดไทยเหมือนกันเขาก็ชอบที่จะคุยกับเรา ชวนเราไปกินข้าวที่บ้าน ไปเที่ยวด้วยกันครับ เสียดายที่วันรุ่งขึ้นผมต้องเดินทางไปซาปาแต่เช้า ไม่งั้นผมได้ไปนอนพักที่บ้านของขาวไทยดำที่เดียนฟูสักหนึ่งคืนแน่นอน ผมมีข้อมูลเพิ่มเติมจาก wiki ให้นิดหน่อยครับ ไตดำ หรือ ลาวโซ่ง เป็นกลุ่มชาวไทกลุ่มหนึ่ง ที่มีถิ่นฐานดั้งเดิมอยู่ในเขตสิบสองจุไทเดิม หรือบริเวณลุ่มแม่น้ำดำ และแม่น้ำแดงในเวียดนามเหนือ ซึ่งเป็นถิ่นที่อยู่ดั้งเดิมของ ชาวไตดำ และ ชาวไตขาว ในสมัยที่ฝรั่งเศสเข้ามาปกครองเวียดนาม และลาว พวกเขาได้เรียกชนเผ่าที่อยู่บริเวณลุ่มแม่น้ำดำว่า ไตดำ ที่เรียกว่าไตดำ ไม่ใช่ว่าพวกเขาอาศัยอยู่ในบริเวณลุ่มน้ำดำ แต่เพราะว่ากลุ่มชนเผ่าไทดังกล่าว นิยมสวมเสื้อผ้าสีดำอันเป็นเอกลักษณ์ ซึ่งย้อมด้วยต้นห้อมหรือต้นคราม การที่เรียกว่า”ลาวโซ่ง” จริงๆแล้วชนชาติพันธุ์ไม่ได้เป็นลาว เหตุที่เรียกเช่นนี้เป็นเพราะว่ามีการอพยพผ่านลาว การเรียกว่า “ชาวโซ่ง” หรือ “ชาวไททรงดำ” จะถูกต้องกว่า เหมือนที่มีการเรียกคนกลุ่มนี้ในจังหวัดเพชรบุรีว่า “โซ่ง” หรือ “ไทยทรงดำ” ในประเทศไทยนอกจากภาคอีสาน และภาคเหนือ…

Read More