เดินทางผ่านสระบุรีหลายครั้ง แต่ก็ไม่เคยพัก เพราะว่าไม่ห่างกรุงเทพฯ ส่วนใหญ่ก็กลับไปนอนบ้านสะดวกกว่า ประหยัดด้วย แต่ผมก็พอมีคลิปตอนเที่ยวสระบุรีอยู่บ้างครับ สำหรับ อำเภอต่างๆในจังหวัดสระบุรี เมืองสระบุรี แก่งคอย หนองแค วิหารแดง หนองแซง บ้านหมอ ดอนพุด หนองโดน พระพุทธบาท เสาไห้ มวกเหล็ก วังม่วง เฉลิมพระเกียรติ ผมมีข้อมูล วัด โรงเรียน ตำบลต่างๆ ครับ mr.hotsia เที่ยวสะใจ
สมัยก่อนตอนบ้านผมวิดบ่อที่จะได้ปลามากทั้งปลาช่อน ปลาหมอ ปลาสลิด เพราะบางบ่อบ้านผมเป็นแหล่งปลาเลยครับ เมื่อปลาเหลือก็จะเอามาทำเค็ม เรียกว่าปลาเค็ม กะอีกอย่างคือปลาร้า ปลาที่นิยมทำปลาร้าคือปลากระดี่และปลาช่อน ให้หลังผ่านไปเป็นสิบปีแถวบ้านก็ไม่ค่อยทำนากันปลาก็หาย ทีนี้จะหากินปลาร้าปลาเค็มยากจริงๆ พอมาเจอปลาร้าที่สิงห์บุรีจึงถูกใจผม เพราะที่สิงห์บุรีทำปลาร้าเหมือนที่บ้านผมทำปลาร้านั้นมีหลายแบบหลายอย่างจำแนกยากมาก ทั้งปลาร้าข้าวคั่ว ปลาร้ารำที่เอาข้าวเปลือกคั่วมาตำ หรือหรือปลาร้าหมักเกลือ หรือปลาหมักแล้วตากแบบไทลื้อที่เรียกว่าปลาฮ้า ทางงอีสสานจะเรียกปลาแดกใส่น้ำเยอะเพราะเขาเน้นเอาน้ำมาใส่ส้มตำ หรือจะแบ่งเป็นระยะเวลาก็มีปลาเดือน ปลาปี คือปลาที่หมักกันเป็นร้อยปี(100 ปี) หรือปลาร้อยปี ที่คนหมักไม่ได้กินคนกินไม่ได้หมักแบบญี่ปุ่น แต่หลักการของปลาร้าเหมือนกันหมดคือทำให้ปลาเนื้อตายและใช้ความเค็มรักษาเนื้อปลาให้เก็บไว้ได้นานๆ เพราะสมัยก่อนไม่มีตู้แช่ฟิต เลยต้องใช้วิธีถนอมอาหารด้วยการทำปลาร้าครับ สำหรับปลาร้าที่สิงห์บุรีที่ตลาดเช้า เป็นปลาร้าข้าวคั่วแบบแห้ง เนื้อปลาขาวหอม ปลาแบบนี้เอาไปทอด เอาไปหลนได้ทั้งนั้น ปลาจะไม่เค็มจัด สำหรับผมชอบเอาไปทอดและใส่พริกแห้งทอด หอมแดงซอยลงไปทอดพร้อมกัน อร่อยมากขอบอกที่สิงห์บุรีเป็นเมืองปลา ตลาดเช้าสิงห์บุรีจึงมีปลามาก ปลาช่อนที่ขายในตลาดส่วนใหญ่เป็นปลาเลี้ยง ปลาธรรมชาติและปลาเลี้ยงรสชาติต่างกัน ปลาธรรมชาติจะมันกว่าปลาเลี้ยงเนื้อจะแน่นและอร่อยกว่า ใครที่ผ่านมาทางสิงห์บุรีและอยากกินปลาร้าข้าวคั่วแท้ๆ แวะมาเลยครับไม่ผิดหวังแน่นอน MrHotsia 2553
ที่ผ่านมาส่วนใหญ่จะพาเที่ยวตลาดโต้ของทางลาว อีสาน เหนือ ไม่ค่อยมีตลาดโต้รุ่งแบบภาคกลางเท่าไร วันนี้ตะลุยเดี่ยวเที่ยวภาคกลาง แวะมาเดินตลาดโต้รุ่งสิงห์บุรี ตลาดอยู่ไม่ไกลจากโรงแรมชัยแสงพาเหรดที่ผมพัก โรงแรมนี้อยู่ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เดินผ่านห้างชัยแสงมาก็ถึงตลาดโต้รุ่งแล้ว ตลาดโต้รุ่งสิงบุรีส่วนใหญ่จะเน้นไปทางข้าวต้มโต้รุ่ง ติดๆกันหลายร้าน ส่วนทางเหนือจะเป็นอาหารตามสั่ง ข้าวผัด ผัดไทย นอกจากข้าวต้มก็มีบะหมี่เกี๊ยวขายดีด้วยครับ แล้วก็บัวลอยไข่หวาน โรตี ตลาดสิงห์บุรีคึกคักมาก มีช้างเดินผ่านด้วย ที่แปลกของสิงห์บุรีที่อื่นไม่มีคือโคมไฟสีแดงที่จะปิดไว้ตามร้านต่างๆ เพราะเขาจะมีงานฉลองพอดี ที่ติดใจผมและยังไม่ได้กินคือโรตีอมตรสสิงห์บุรี จ้าวนี้ขายมา 40 ปีแล้ว นานมาก พอดีวันนั้นผมอิ่มมากเลยไม่ได้ลองชิมครับ ใครไปอย่าลืมไปชิม Mr.Hotsia 2553
ตลาดน้ำดำเนินสะดวกเป็นตลาดน้ำโบราณดั้งเดิมสร้างชื่อเสียงให้เมืองไทยมาช้านาน ตลาดน้ำดำเนินสะดวกวันนี้มีนักท่องเที่ยว ทัวร์ต่างประเทศ มาเที่ยวกันที่นี่ วิถีชาวบ้านดั้งเดิมจำต้องเปลี่ยนไปตามสิ่งแวดล้อมและนักท่องเที่ยว แต่วิถีชีวิตชาวคลองหากได้ล่องเรือเที่ยวชมบ้านผู้คนก็ยังคงเหมือนเดิมครับ แต่หากก้องการชมตลาดน้ำโบราณดั้งเดิมลองไปดูที่ตลาดน้ำท่าคาสิ ผมว่าเป็นอะไรที่ยังธรรมชาติสุดๆ ตลาดน้ำท่าคามี 2 7 12 ค่ำครับ ส่วนตลาดอัพวาเน้นตลาดเย็น บรรยากาศดีฟังเพลงเดินเล่นช่วงกลางคืนครับ Mr.Hotsia ตุลาคม 2554
ตอนมาเที่ยวสมุทรสงครามผมพักที่อัมพวา แล้วตื่นแต่เช้ามาเที่ยวตลาดเช้าสมุทรสงครามหรือ “ตลาดร่มหุบ” ที่ได้ชื่อว่าตลาดร่มหุบเพราะตลาดตั้งอยู่บนรางรถไฟ เมื่อรถไฟมาจะหุบร่มอย่างรวดเร็ว ดูไปเหมือนตลาดที่กางและหุบร่วมได้อย่างรวดเร็วครับ เวลาที่รถไฟมา ดูได้จากกำหนดเวลาเดินรถไฟสายแม่กลอง-บ้านแหลม เวลาเข้า-ออก คือ ออก 06.20 น., 09.00 น., 11.30 น., 15.30 น. และ เข้า 8.30 น., 11.10 น., 14.30 น., 17.40 น. ตลาดร่มหุบ เปิดทุกวัน ตั้งแต่เวลา 05.00-17.00 น. หากใครมาช่วงเช้าข้างๆ ตลาดร่มหุบมีก๊วยจั๊บอร่อย ราคาเพียง 10 บาทต่อถ้วยเท่านั้น ผมลองไปชิมมาแล้ว อร่อยครับ เที่ยวสะใจ กินสะใจ Mr.Hotsia ตุลาคม 2554
ทุกวันนี้ตลาดน้ำมีเยอะไปหมด จนไม่รู้แล้วว่าตลาดแบบไหนเป็นแบบที่มีอยู่เดิม หลังจากที่ผมเที่ยวมาหลายที่ว่า “ตลาดน้ำท่าคา” เป็นตลาดดั้งเดิมของแท้ๆ ที่ยังคงได้จนถึงทุกวันนี้มากที่สุด ตลาดน้ำท่าคามีดั้งเดิมเฉพาะวัน 2 ค่ำ 12 ค่ำ และ 7 ค่ำ จนถึงวันนี้ชาวบ้านก็จะเอาข้าวของพายเรือมาขายกันในวันดังกล่าวไม่เปลี่ยนแปลง แต่จะมีเพิ่มเติมมาเพื่อให้คนมาเที่ยวกันคือวันวันเสาร์อาทิตย์ แต่ Mr.hotsia แนะนำให้มาในวัน 2 ค่ำ 7 ค่ำ 12 ค่ำ จะได้บรรยากาศมากกว่าครับ (ดูว่าวันไหนตรงกะกี่ค่ำกี่แรมได้ที่นี่) ที่ตลาดท่าคาชาวบ้านเขารวมตัวกันให้บริการนักท่องเที่ยวนั่งเรือชมสวน ชมการทำน้ำตาลจากมะพร้าว และชมบ้านโบราณที่รัชกาลที่ 5 เคยมาแวะ ผมว่าหากมาเที่ยวถึงนี่น่าจะนั่งเรือเที่ยวนะ เพราะราคาไม่แพง และเป็นการช่วยชาวบ้านแบบตรงๆเลย อีกทั้งบรรยากาศของที่นี่ยังเป็นบ้านสวนแท้ๆ สมบูรณ์มาก อีกหน่อยจะหาดูยากครับ สำหรับที่พักที่ตลาดน้ำท่าคามีที่พักทั้งแบบโฮมสเตย์คืนละไม่กี่ร้อยเป็นโฮมสเตย์แท้ๆพักและกินอยู่กับชาวบ้านเลย ราคาจะรวมอาหาร 3 มื้อแล้ว นอกจากนั้นยังมีที่พักแบบเป็นห้องๆ ราคาก็ 400-1000 บาท แล้วแต่ location แต่โดยรวมราคาถูกกว่าอัมพวาแน่นอน และก็เป็นธรรมชาติมากกว่า แต่อัมพวาก็มีสีสันยามค่ำคืนที่ที่ตลาดน้ำทาคาไม่มี Mr.Hotsia ตุลาคม 2554 ตำบลท่าคา ประวัติมาจากตลาดน้ำท่าคา แต่เดิมเรียกว่าตลาดนัดท่าคา ซึ่งทำการค้าขายอยู่ที่ทำนบท่าคา หมู่ที่…
ตลาดน้ำอัมพวาดั้งเดิมเป็นตลาดคล้ายๆตลาดโบราณบางพลี ตลาดคลองสวนร้อยปี ต่อมาได้กลายมาเป็นตลาดน้ำที่เป็นที่ท่องเที่ยวในช่วงที่คนมาเที่ยวดำเนินสะดวกแล้วยังขาดอะไรไปอย่างนึง แต่การพัฒนาการของตลาดน้ำอัมพวากลับไม่จบแค่นั้น ตลาดอัมพวามีตลาดน้ำกลางคืนขึ้นมา มีถนนคนเดินขึ้นมา เลยกลายเป็นที่พักผ่อนยามเย็นกลางคืน มีที่นั่งจิบเบียร์เย็นๆ มีดนตรีริมน้ำที่เพิ่มขึ้นมาเรื่อยๆ แต่ละร้านเปิดเครื่องเสียงเรียกลูกค้า ร้านเหล้าและเพลงริมคลองเป็นสีสันของตลาดอัมพวาวันนี้ครับ ใครที่มาเที่ยวอัมพวาแล้วต้องการแบบดั้งเดิมสงบๆ อาจใช้วิธีพักนอกตลาดเพราะในตลาดจะหยุดเสียงตอนสักสี่ทุ่มครึ่ง หรืออาจเลือกที่จะไปเที่ยวตลาดน้ำชาวบ้านแท้ๆ อย่างตลาดน้ำท่าคา จะได้สัมผัสตลาดน้ำแบบดั้งเดิม ตลาดนี้ท่าค่ามีทุก 7 ค่ำ 12 ค่ำ 2 ค่ำ และเสาร์อาทิตย์การเปลี่ยนไปของตลาดน้ำอัมพวาเป็นสิ่งที่ดีและจังหวะตรงกับที่ชาวกรุงเทพฯ ที่ต้องการท่องเที่ยวสบายๆริมคลอง มีร้านให้กินดื่ม มีคนที่รักชอบแนวเดียวกัน คือธรรมชาติแบบริมคลอง แต่ไม่เงียบ มีเสียงเพลงไปด้วย ทำให้ตลาดน้ำอัมวามีคนเยอะมากในช่วงค่ำ และเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ใครๆก็ควรไปเที่ยวสักครั้งนึงครับ ผมมาเที่ยวอัมพวาครั้งนนี้เป็นครั้งที่ 2 ขณะเดินเล่นในตลาดได้ไปเจอกับพี่จักรเจ้าของ “เรือนสบาย แห่งอัมพวา” เขาจึงชวนให้พักกะเขาด้วย ต้องขอขอบคุณมา ณ. ที่นี้ สำหรับกิจกรรมสำหรับการมาเที่ยวกลางคืนอัมพวายังคงไว้คือนั่งเรือชมหิ่งห้อย ตักบาตรยามเช้า แต่น้อยคนนักที่จะตื่นกันเช้า ส่วนใหญ่ผักผ่อนกันเต็มที่หลังจากสนุกสนานกันจนดึกดื่นของคืนก่อนหน้านี้สำหรับผมตื่นแต่เช้าเพราะนอนไม่ดึกมาถ่ายรูปบรรยากาศของอัมพวายามเช้า แล้วรีบเดินทางไปตลาดร่มหุบ ซึ่งอยู่ที่ตัวเมืองสมุทรสงครามห่างกันไม่กี่กิโลเมตร เป็นกิจกรรมอย่างหนึ่งที่น่าสนใจครับ สำหรับนักท่องเที่ยวที่เน้าแนวกินดื่ม ฟังเพลงริมคลอง อัมพวาวันนี้คือคำตอบสุดท้ายแล้ว แต่ตลาดและเสียงจะปิดประมาญสี่ทุ่มครึ่งนะครับ จะขับรถไปต่อกรุงเทพฯ หรือจะนอนเอาแรงเที่ยวต่ออีกวันก็ไม่ว่ากัน ส่วนหนึ่งของนักท่องเที่ยว จริงๆส่วนใหญ่เลย ก็จะไปเที่ยวสวนผึ้งต่อครับ mr.hotsia ตุลาคม…
นนทบุรีแทบแยกจากกรุงเทพไม่ออก ตอนผมทำงานในกรุงเทพผมชอบมาหากินอาหารอร่อยๆ แถวริมแม่น้ำเจ้าพระยา นนบุรีมีแม่น้ำเจ้าพระยาไหลผ่าน ตัวเมืองเก่าน่าสนใจ น้อยคนถึงแม้อยู่กรุงเทพฯเองก็ยากจะได้ไปเมืองนนท์ อำเภอต่างๆในจังหวัดนนทบุรี เมืองนนทบุรี บางกรวย บางใหญ่ บางบัวทอง ไทรน้อย ปากเกร็ด เทศบาลนครนนทบุรี (สาขาแขวงท่าทราย) เทศบาลเมืองปากเกร็ด ผมมีคลิปวีดีโอของบางบัวทองมาให้ชม เป็นทริปที่ผมขับรถกลับจากสุพรรณบุรีผ่านขากลับครับ mr.hotsia เที่ยวสะใจ
หากมองเรื่องการท่องเที่ยวเป็นหลัก อำเภอนางรองเป็นพระเอกของจังหวัดบุรีรัมย์ เพราะเป็นอำเภอที่คนจะพักก่อนที่จะไปเที่ยวเขาพนมรุ่ง ผมเองก็ยังพักที่อำเภอนางรองนี้เลยครับ ผมพักที่โรงแรมพนมรุ้งปุรีย์ แล้วกลางคืนผมก็ขับรถไปกินข้าวต้มข้างทางแถวๆริมถนนใหญ่ อำเภอนางรองมีท้องนาเยอะ พื้นนาสีเขียว มีความริมทุ่งนา ชาวบ้านหาปลาทอดแห อำเภอที่น่าท่องเที่ยวแบบวิธีชาวบ้านแบบที่ผมชอบ ที่อำเภอนางรองยังมีหลวงปู่มั่น ที่ใหญ่ที่สุดในโลกอีกด้วย พึ่งทำเสร็จครับ Mr.Hotsia ตุลาคม 2554 Mr.Hotsia แนะนำโรงแรมในบุรีรัมย์ประวัติอำเภอนางรองเพิ่มเติมจาก wiki ครับ : สมัยขอมเรืองอำนาจ เมืองนางรองหรือแคว้นพนมโรงเป็นที่อยู่ของชนชาติขอม ขอมได้ปกครองดินแดงส่วนนี้เป็นเวลานาน ได้พบซากเมืองโบราณที่แสดงว่าขอมมีอำนาจแถบนี้เป็นระยะ ๆ จากปราสาทหินพิมายและปราสาทหินพนมรุ้ง โบราณวัตถุที่ค้นพบเก่าแก่ที่สุดคือ เทวรูปต่าง ๆ และหม้อน้ำดินเผาโบราณแบบขอม เมื่อขอมเสื่อมอำนาจลงแล้ว มอญก็เข้ามามีอำนาจในดินแดนแถบนี้ ทำให้เกิดชนชาติใหม่ขึ้นคือ ขอม มอญ เป็น เข-มอญ หรือเขมร ซึ่งก็คือขอมนั่นเองแต่มีเชื้อผสมระหว่างมอญกับขอม ต่อมาเมื่อมอญเสื่อมอำนาจลง ไทยจึงได้แผ่อาณาเขตเข้าครอบครองดินแดนแถบนี้ต่อไป การแผ่อาณาเขตของไทยในดินแดนแถบนี้ จะเห็นได้ว่ามาจาก 2 ทางคือ ทางนครราชสีมาและทางหลวงพระบาง แต่ไม่มีหลักฐานว่ามาครั้งใด สันนิษฐานว่าไทยคงจะเข้าครอบครองดินแดนแถบนี้ในสมัยกรุงสุโขทัยหรือกรุงศรีอยุธยาตอนต้น หลักฐานพอจะอ้างอิงได้คือ พระพุทธรูปโบราณที่ขุดพบ ส่วนมากเป็นพระพุทธรูปสมัยลพบุรี เมื่อไทยได้เข้าครอบครองดินแดนส่วนนี้ จึงตั้งศูนย์กลางปกครองที่เมืองนางรอง มีเจ้าเมืองปกครองติดต่อกันมาโดยตลอด สมัยกรุงศรีอยุธยา ดินแดนแถบเมืองนางรอง เมืองตลุง…
ปราสาทหินเมืองต่ำนั้นอยู่ไม่ไกลจากปราสาทหินพนมรุ้งนัก ปราสาทหินพนมรุ่งจะอยู่ที่เขาพนมรุ่ง หากขับรถลงไปก็จะเจอปราสาทเมืองต่ำ ปราสาททั้งสองอยู่ในกลุ่มปราสาทเดียวกับที่เขมร และอยู่ในแนวเดินทางเพื่อไปปราสาทหินพิมายด้วย เรื่อง แนวเดินทางของปราสาทสมัยก่อนมักจะมีการเชื่อมโยงกันครับ อย่างปราสาทวัดพูก็เชื่อมโยงไปยังนครวัดได้ ปราสาทในไทยก็เชื่อมโยงไปยังปราสาทในกัมพูชาได้ ข้างๆปราสาทมีบารายหรือบ่อน้ำที่ใช้ในพิธีกรรมทางศาสนาต่าง ยังเป็นร่องรอยของหินที่เรียงรอบสระน้ำนี้ เที่ยวปราสาทคงไม่มีความหมายอะไร เหมือนกะมาชมหินชมดินหากไม่รู้ที่มาที่ไปของปราสาทนั้น ผมจึงขอเล่าประวัติของปราสาทเมืองต่ำ ซึ่งเป็นข้อมูลจาก wiki มาฝากกันด้วยครับ Mr.Hotdsia ตุลาคม 2554 ปราสาทเมืองต่ำ ตั้งอยู่บริเวณหน้าวัดปราสาทบูรพาราม ตำบลจระเข้มาก อำเภอประโคนชัย จังหวัดบุรีรัมย์ โดยคำว่า เมืองต่ำ นี้ไม่ใช่ชื่อดั้งเดิม แต่เป็นชื่อที่ชาวพื้นเมืองเรียกโบราณสถานแห่งนี้ เพราะปราสาทแห่งนี้ตั้งอยู่ในที่ต่ำกว่าปราสาทพนมรุ้ง โดยมวลสารวัตถุจากโบราณสถาน และโบราณวัตถุในที่นี้ รัชกาลที่ 9 ได้ทรงนำมาเป็นส่วนประกอบในการทำพระสมเด็จจิตรลดา ปราสาทเมืองต่ำสร้างขึ้นในราวพุทธศตวรรษที่ 16 ในศิลปะปาปวนตอนต้น และลดความสำคัญลงไปในราวพุทธศตวรรษที่ 18 และถูกทิ้งร้างในที่สุด จนเมื่อราวปี พ.ศ. 2490 จึงเริ่มมีการอพยพเข้ามาของชาวบ้าน มาตั้งถิ่นฐานในบริเวณนี้อีกครั้งหนึ่ง ปราสาทเมืองต่ำน่าจะเป็นเทวสถานในศาสนาฮินดู ลัทธิไวษณพนิกาย เพราะถึงแม้ได้มีการขุดพบศิวลึงค์ แต่ภาพสลัก ส่วนมากที่ปราสาทนี้ ล้วนเป็นภาพเกี่ยวกับการอวตารของพระนารายณ์ อีกทั้งเป็นปราสาทน้ำล้อม ซึ่งเป็นลักษณะของไวษณพนิกาย ต่างจากปราสาทบนภูเขาของไศวนิกาย ปราสาทเมืองต่ำมีปรางค์ประธานห้าองค์บนฐานเดียวกัน เช่นเดียวกับปราสาทศีขรภูมิ โดยแต่ละองค์มีรายละเอียดดังนี้ ปรางค์ประธานปัจจุบันได้ถล่มลงมาแล้ว…