ถ้ำท่านประธานสุภานุวงศ์

ถ้ำท่านประธานสุภานุวงศ์ เดิมเรียกว่า ถ้ำผาปุ่ง (ผาโป่ง) แต่เดิมถ้ำนี้เป็นป่าดงดิบ มีสัตว์ต่างๆ มากมาย เช่น กวาง เก้ง และสัตว์อื่นๆ อาศัยอยู่มาก เขตนี้มีโป่งน้ำสัตว์ทั้งหลายใช้อาศัยกินน้ำ ประชาชนจึงเรียกว่าผาปุ่ง (ผาโป่ง) ในต้นปี 1964 ท่านประธานสภานุวงศ์ได้ย้ายสำนักเข้าอยู่ถ้ำแห่งนี้ ในขั้นแรกก็อาศัยถ้ำ ธรรมชาติ แต่ต่อมาก็ได้เริ่มปรับปรุง เป็นที่พักอาศัย มีหลายห้องคือ ห้องป้องกัน, ห้องนอน, ห้องประชุม ฯลฯ อยู่นอกถ้ำมีห้องเล็กใช้เป็นห้องอาหาร นอกจากนั้น ยังมีเรือนเล็กหนึ่งหลัง ซึ่งปลูกให้ท่านสุภานุวงศ์พักอยู่ภายหลังสงคราม ระหว่างรอการ ก่อสร้างบ้านพักหลังใหม่สำเร็จ

Read More



ขนส่งซำเหนือ แขวงหัวพัน

ซำเหนือดินแดนชนบทที่สุดของลาว แต่การเดินทางมาที่นี่ก็ยังมีสายการบินลาวให้บริการ เพราะประเทศลาวนั้นเขาจะมีสนามบินเกือบทุกแขวง เพื่อให้ง่ายในการเข้าถึงพื้นที่ต่างๆ เนื่องจาก บ้านเมืองเขาเป็นป่าเขาหากใช้รถต้องเดินทางเป็นวันๆ หากจำเป็นต้องไปด่วนๆไม่สามารถทำได้ จึงต้องมีสนามบินในที่ห่างไกลเกือบทุกแขวงครับ สายกินบินลาว จะบินจากเวียงจันทน์มาซำเหนือสัปดาห์ละ 3 ครั้ง ค่าโดยสารเที่ยวเดียวอยู่ที่คนละ 2,500 บาท หากเป็นตั๋วไปกลับคนละ 4,800 บาท สายการบินลาวค่อนข้างแพงอยู่แล้ว ไม่สามารถไปเทียบกับพวกสายการบินโลคอสในไทยได้ครับ การบินลาวให้บริการวันจันทร์ พุธ และวันเสาร์ สนามบินอยู่ห่างจากซำเหนือประมาณ 3 กิโลเมตร หากนั่งรถตุ๊กๆก็คนละ 30 บาท ส่วนการเดินทางโดยรถยนต์นั้นผมเขียนระยะทางและเวลาในการเดินทางให้ตามรูปด้านล่างนี้ครับ ซำเหนือค่อนข้างไกล อย่างเช่นจากเวียงจันทน์มาซำเหนือใช้เวลาเดินทาง 22 ชั่วโมง การนั่งรถมาซำเหนือ สามารถมาจากเชียงขวางและอุดมไชย จากเชียงขวาง โพนสะหวันรถออก 07.00 น. เป็นรถเที่ยวที่ผมเดินทางมาครับ รถจะผ่านน้ำเนิน มาถึงซำเหนือช่วงเย็นๆ สำหรับรถจากซำเหนือไปโพนสะหวันมีวันละ 2 ครั้ง ใช้เวลาเดินทาง 10 ชั่วโมง ค่ารถคนละสองร้อยกว่าบาท เที่ยวเช้าออก 09.00 น. ตอนบ่ายออก 13.00 น. รถจะผ่านโพนสะหวันไปเวียงจันทน์ต่อ ใช้เวลารวมประมาณ 22-24…

Read More



ถ้ำท่านคำไต สีพันถอน

ถ้ำท่านคำไต สีพันดอน ถ้ำท่านคำไต สีพันดอน เป็นส่วนหนึ่งของถ้ำช้างลอด เดิมไม่ใช่ถ้ำ แต่ได้ใช้เครื่องจักรและแรงคนเจาะเป็นถ้ำให้ ท่านคำไตได้พักอาศัย ประกอบด้วยห้องประชุมของนายทหารชั้นสุง ทั้งเป็นห้องรับแขกภาย ในและต่างประเทศ, ห้องค้นคว้า, ห้องนอน ลง จากถ้ำท่านคำไต สามารถทะลุถึงถ้ำช้างลอด ซึ่งจะมีห้องการเมือง และห้องพลาธิการ ส่วนอีกเส้นทางหนึ่งจะไปทะลุห้องเสนาธิการสูงสุด ซึ่งเป็นเส้นทางที่ยุ่งยาก และเขตนั้นยังรักษาขุมปีนใหญ่ไว้สามขุม ถ้ำช้างลอดเป็นถ้ำธรรมชาติ ที่ใหญ่ที่สุด ที่เรียกกันว่าถ้ำช้างลอด ประชาชนเล่าว่าเรื่องจากถ้ำนี้เป็นถ้ำใหญ่จนช้างสามารถ ลอดไปมาได้อย่างสบาย ถ้ำนี้ได้ถูกปรับปรุงเป็นถ้ำสโมสร เป็นสถานที่ร่วมชุมนุมในงานบุญที่ สำคัญต่างๆ เป็นที่รับรองแขกชั้นสูงต่างประเทศที่มาเยือน และยังเป็นสถานที่แสดงศิลปะ, กายกรรม และเล่นกีฬาบางประเภท

Read More



ถ้ำท่านไกสอน พรมวิหาร

ในสมัยสงครามอินโดจีนครั้งที่ 2 (ฝั่งตะวันตกเรียกว่าสงครามเวียดนาม ในเวียดนามเรียกว่าสงครามอเมริกา) ที่เริ่มขึ้นเมื่อเกิดความขัดแย้งระหว่างรัฐบาลเวียดนามใต้ที่สนับสนุนโดยสหรัฐกับฝ่ายเหนือ ทั้งกองกำลังของเวียดกงและกองทัพเวียดนามเหนือปัจจุบันกลายเป็นกองทัพประชาชนเวียดนาม มันเริ่มขึ้นในปลายทศวรรษที่ 2493 และจบลงในปี ค.ศ. 2522 สหรัฐที่สนับสนุนฝรั่งเศสในสงครามครั้งแรกได้เข้าสนับสนุนรัฐบาลเวียดนามใต้เพื่อต่อกรกับเวียดกงและเวียดนามเหนือที่เป็นคอมมิวนิสต์ ฝ่ายเหนือได้รับการสนับสนุนทางทหารและเงินจากจีนและสหภาพโซเวียต การต่อสู้ยังเกิดขึ้นในกัมพูชาระหว่างกองทัพที่สหรัฐสนับสนุนกับฝ่ายเขมรแดงที่เป็นคอมมิวนิสต์ (รู้จักกันในชื่อสงครามกลางเมืองกัมพูชา) และในลาวก็มีการต่อสู้ระหว่างรัฐบาลที่สหรัฐสนับสนุน กองทัพประชาชนเวียดนาม และขบวนการปะเทดลาวที่เป็นคอมมิวนิสต์ (รู้จักกันในชื่อสงครามกลางเมืองลาว) ถ้ำท่านประธานไกสอน พรมวิหาร เดิมเรียกว่าผาหย่อน ของเดิมถ้ำนี้มีผึ้งมาก ประชาชนเขตนี้อยากได้แต่ขึ้นไปลำบาก ต้องปีนขึ้นบนผา แล้วเอาเชือกหย่อนลงมาเพื่อเอาผึ้ง จึงเรียกว่าถ้ำหย่อนของถ้ำนี้เป็นถ้ำธรรมชาติ 2 ถ้ำ ติดต่อกัน ในปี 1964 ท่านประธานไกสอน ได้โยกย้ายเข้ามา ระยะแรกก็ยังไม่ปรับปรุง ต่อมา ได้เจาะ 2 ถ้ำทะลุถึงกันมีความยาว 140 เมตร ถ้ำนี้เป็นถ้ำที่สูงกว่าหน้าดินจนได้สร้างปันได ขึ้นไป 32 ขั้น ถ้ำนี้ประกอบด้วยห้องป้องกัน, ห้องรับแขก ศูนย์กลางพรรคและรับแขกต่าง ประเทศ, ห้องประชุม, ห้องสโมสร ซึ่งเป็นสถานที่เล่นกีฬา และศิลปะต่างๆ โดยเฉพาะท่าน ประธานไกสอน พรมวิหาร ชอบเล่นกีฬา เช่นกีฬาปิงปองเป็นต้น นอกจากนี้…

Read More



ถ้ำท่านหนูฮัก พูมสะหวัน

ถ้ำท่านหนูฮัก พูมสะหวัน นายหนูฮัก เกิดวันที่ 9 เม.ย.2457 ในดินแดนที่เป็น จ.มุกดาหาร ประเทศไทยปัจจุบันนี้ เข้าร่วมการต่อสู้กับเจ้าอาณานิคมฝรั่งเศสตั้งแต่วัยหนุ่มและได้เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์อินโดจีน เป็นผู้ร่วมการก่อตั้งพรรคประชาชนปฏิวัติลาวคนสุดท้ายที่ถึงแก่กรรม หลังการเปลี่ยนแปลงการปกครองในลาวเดือน ธ.ค.ปี 2518 นายหนูฮัก ได้เป็นรองนายกรัฐมนตรี รับผิดชอบด้านเศรษฐกิจของประเทศเป็นเวลาหลายปี ในเดือน พ.ย.2535 นายหนูอักได้รับเลือกให้ขึ้นเป็นประธานประเทศ หลังจากนายไกสอน พมวิหาน ผู้นำสูงสุดถึงแก่กรรมในเดือน ต.ค. ต่อมาในปี 2539 ได้พ้นจากตำแหน่งกรมการเมืองของพรรค และตำแหน่งผู้นำแห่งรัฐเมื่ออายุได้ 83 ปี ท่านหนูฮักได้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาพิเศษของคณะกรรมการศูนย์กลางพรรคต่อมาเป็นเวลา 5 ปีก่อนจะเกษียน และเริ่มหายหน้าไปจากสาธารณชน พล.อ.คำไต สีพันดอน ได้รับเลือกให้ขึ้นเป็นผู้นำพรรคและประธานประเทศสืบต่อมาจนถึงปี 2549 จึงได้เกษียนออกไป และเข้าสู่ยุคของผู้นำปัจจุบันคือ พล.ท.จูมมะลี ไซยะสอน ที่ควบตำแหน่งการนำทั้งพรรคและรัฐเช่นเดียวกัน ตามประวัติที่เป็นทางการนั้น นายหนูฮักได้เข้าร่วมในขบวนการต่อต้านฝรั่งเศสในลาวกับผู้นำคนอื่นๆ ตั้งแต่ปี 2493 และได้รับเลือกเข้าเป็นกรรมการกลางพรรคเมื่อมีการก่อตั้งพรรคประชาชนลาวในปี 2498 ซึ่งได้กลายมาเป็นพรรคประชาชนปฏิวัติลาวในปัจจุบันนี้ ปี 2502 นายหนูฮักได้ถูกรัฐบาลลาวเวียงจันทน์จับกุมพร้อมกับเจ้าสุพานุวงกับผู้นำอีกจำนวนหนึ่ง แต่ก็หลบหนีไปได้ นายหนูฮักได้เข้ามีบทบาทในการเจรจาร่วมรัฐบาลกับฝ่ายเวียงจันทน์ทุกครั้ง และ หลังการยึดอำนาจในเดือน ธ.ค.2518 ได้รับแต่งตั้งเป็นรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีกระทรวงการเงิน…

Read More



เล่นหวยขูดกับชาวบ้านที่เมืองเวียงไช

สวัสดีครับ วันนี้ผมพามาเที่ยวเมืองเวียงไชย เป็นเมืองที่เป็นถ้ำที่อยู่ของท่านผู้นำลาว สมัยที่ทำสงครามกับอเมริกา ถ้ำที่ผมผู้นำเขาเคยใช้หลบภัยนั้น ไม่ได้อยู่กันแค่วันสองวัน หรือเดือนสองเดือน แต่เขาอาศัยอยู่ที่นี่นับสิบๆ ปี เมืองเวียงไชยจึงน่าสนใจมีคนเดินทางมาท่องเที่ยงเป็นระยะๆ แต่ไม่บ่อย เพราะมันไกลเหลือเกิน เรื่องเที่ยวถ้ำผมจะพาเที่ยวในเรื่องหน้า ครั้งนี้พาเดินเล่นในเมืองเวียงไชยกันก่อนครับ เมืองเวียงไชยเป็นเมืองที่โดดเดี่ยว กลางเมืองมีทะเลสาบ มีภูเขาหินปูนรอบเมือง มีท้องนาอยู่กลางเมือง จึงเป็นวิวสวยงามที่ใครได้เห็นแล้วจะชอบ ผมมาเที่ยวช่วงหน้าร้อนที่เวียงไชยกลับไม่ได้ร้อนอย่างที่คิด นักเรียนไปโรงเรียนตอนเช้าๆ ยังใส่เสื้อกันหนาวกันอยู่เลยครับ เมืองเวียงไชยมีคนทั้งเมืองไม่ถึงสามหมื่นคน คนหนุ่มสาวก็ไปเรียนที่เวียงจันทน์ หรือไปทำงานเมืองใหญ่ๆกันหมด เมืองจึงดูเงียบๆ สงบมากๆ เมืองเวียงไชยมีตลาดเย็นและตลาดเช้าตลาดเดียวกัน มีขนส่งเวียงไชยอยู่ติดตลาด กลางเมืองมีร้านขายมอเตอร์ไซต์อยู่ด้วย ดูร้านค่อนข้างใหญ่เกินไปสำหรับเมืองเล็กๆแบบนี้ ข้างๆตลาดมีร้านอาหารสองสามร้าน มีร้านสระผม ที่พักจะอยู่กระจายทั่วเมือง ส่วนที่ผมพักคืนนี้อยู่ติดทะเลสาบ เป็นทั้งร้านอาหารและที่พักด้วย ที่เวียงไชยไม่มีอินเตอร์เน็ตให้ใช้ ไฟฟ้าของที่นี่เปิด 24 ชั่วโมง แต่หากฝนตกไฟมักจะดับ เมืองเวียงไชยนั้นเป็นเมืองชายแดนสุดๆ ทำให้ไม่ค่อยได้มีคนได้ไปเที่ยวกันบ่อยนัก ผมก็เป็นคนไทยหนึ่งในไม่กี่คนที่ได้มาถึงที่นี่ ทำให้บรรยากาศของผมเวลาที่ถ่ายคลิปวีดีโอมาฝากเพื่อนๆ Hotsia.com ได้รับความสนใจอย่างมาก เด็กๆยิ้มและเขินกล้องอย่างน่ารัก ตลาดไม่มีอะไรเด่นเท่าซำเหนือ แต่ชาวบ้านที่นี่เห็นเราเป็นมิตรอย่างมาก สิ่งที่ผมประทับใจสำหรับเมืองเวียงไชยคือบรรยากาศช่วงเย็นๆ ที่ใครต่อใครก็จะเดินมาตลาด เป็นชุมนุมพบปะกัน และมีกิจกรรมหวยขูดที่ได้รับความนิยมอย่างมากในประเทศลาว ผมเห็นพี่น้องลาวมุงเล่นกัน จึงห้ามใจไม่อยู่ ไปซื้อเล่นกับเขาด้วย แต่ก็ถูกกินครับ ไม่ได้อะไรเลย…

Read More



นั่งรถชมวิว เส้นทางไปซำเหนือ

หลังจากเที่ยวโพนสะหวัน ประเพณีบุญบั้งไฟลาว ทุ่งไหหิน(Plain of jars) เที่ยวเมืองระเบิดเชียงขวาง วันนี้ได้เวลาเดินทางต่อไปยังยังซำเหนือแขวงหัวพัน ตั้งแต่ผมได้เดินทางไปท่องเที่ยวเก็บข้อมูลที่ประเทศลาวในหลายๆแขวง ผมได้ทราบข้อมูลมาว่าซำเหนือเป็นเมืองที่ชนบทที่สุดของประเทศลาว เพราะเมืองซำเหนือนั้นอยู่ไกลเข้าไปถึงชายแดนเวียดนาม หนทางก็ยากลำบากผ่านป่าผ่านเขา นักท่องเที่ยวน้อยคนนักที่จะเดินทางมาถึงที่ซำเหนือได้ ยิ่งคนไทยยิ่งนับคนได้เลยครับ เมืองซำเหนือมีคนลาวสองกลุ่มที่อยู่ที่นี่ หนึ่งคือชาวม้งส่วนใหญ่อยู่ตามภูเขา กลุ่มที่สองคือชาวลาวทั่วไปที่พูดภาษาเหมือนชาวอีสานบ้านเราจะอาศัยอยู่ในตัวเมืองซำเหนือ ชาวม้งนี้เมริกาสนับสนุนในการรบกับลาวสมัยก่อน ตอนนี้สงครามสงบแล้วทั้งสองกลุ่มความสัมพันธ์เป็นเช่นไรไม่รู้ เมืองซำเหนือเป็นเมืองที่ท่านผู้นำลาวเคยอาศัยอยู่ในถ้ำสมัยที่อเมริกาตั้งฐานบินในประเทศไทย แล้วไปทิ้งระเบิดย่อยยับที่เมืองซำเหนือแขวงหัวพันแห่งนี้ เนื่องจากเหตุการณ์ยังผ่านมาไม่นานนัก ดังนั้นผมจึงเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนๆฟังก่อนเดินทางไปเที่ยวที่นี่ จะได้ทำตัวถูกเวลามาเที่ยว การเดินทางจากโพนสะหวันมาซำเหนือจะผ่านเมืองน้ำเนิน เป็นจุดพักรถกลางทาง จากน้ำเนินสามารถเดินทางไปซำเหนือหรือหนองเขียวก็ได้ ที่น้ำเนินนี้เป็นเมืองที่ท่องเที่ยวเมืองหนึ่งของลาวเช่นกัน มีน้ำพุร้อนและเมืองวังทองที่ฝรั่งชอบมาพักที่นี่คืนสองคืนก่อนไปที่อื่นต่อ ผมเดินทางมาถึงน้ำเนินตอนบ่ายโมงกว่าๆ ที่นี่เป็นหมู่บ้านไม่ใหญ่นัก มีอาหารขายไม่ลำบากเหมือนตอนที่เดินทางไปพงสาลี แต่ไม่มีข้าวจ้าวขาย มีเฉพาะเฝ๋อและข้าวเหนียวเท่านั้น จากน้ำเนินจะเดินทางไปอีก 90 กิโลเมตรก็จะถึงซำเหนือแต่หนทางเป็นภูเขาทำให้ไปถึงซำเหนือช่วงเย็นๆ การนั่งรถในประเทศลาวเป็นเวลานานๆ นั้นไม่ค่อยน่าเบื่อครับเพราะอากาศเขาเย็นสบายและวิวสวยตลอดเส้นทาง ดูนู้นดูนี่ไปลืมๆ ก็ถึงซำเหนือแล้ว ผมเดินทางมาถึงซำเหนือช่วงเย็นๆ สถานีขนส่งซำเหนือจะอยู่บนภูเขา มองจากจุดนี้ลงไปจะเห็นเมืองซำเหนือมีท้องนาอยู่กลางเมืองและมีแม่น้ำซำไหลผ่านเมืองเทห์กว่าที่คิด เมืองซำเหนือเล็กกว่าพงสาลีมาก ดูสงบกว่า พรุ่งนี้ผมจะพาเที่ยวซำเหนือครับ วันนี้ขอตัวหาที่พักก่อน mr.Hotsia

Read More



พาไปกินตะขาบน้ำ ที่ตลาดซำเหนือ

รูปที่ท่านเห็นด้านบนนี้ผมเรียกมันว่า “ตะขาบน้ำ” คนลาวเรียกเจ้าตัวยาวๆ ขาเยอะๆ แบบข้างบนนี้ว่า “ก้านเต่อ” จะอยู่ตามน้ำสะอาดเท่านั้น ในสมัยก่อนที่เวียงจันทน์ก็มี แต่ตอนนี้หากินไม่ได้แล้ว เจ้าตะขาบน้ำที่ท่านเห็นนี้ เขานิยมไปทำเป็นหมก เป็นอาหารยอดนิยมของซำเหนือ คนซำเหนือและคนลาวจะเรียกหมกนี้ว่า ปลาพั้น(Pla Puhn) นี่คืออาหารแปลกที่หากินได้ยากแล้วบนโลกในนี้ ผมได้มีโอกาสมาเก็บข้อมูลท่องเที่ยวซำเหนือได้ไปเจอตะขาบน้ำเห็นแล้วรู้สึกแหยงๆ ไม่กล้าแม้แต่จะโดนตัวมัน เพราะตอนเด็กๆเคยโดนตะขาบกัดเจ็บปวดและจดจำฝังใจมาจนถึงวันนี้ สำหรับเจ้าก้านเต่อ ผมไปลิ้มรสมันตอนที่จะเดินทางไปเมืองเวียงไชย เพื่อไปเที่ยวถ้ำท่านผู้นำ และที่สถานีรถเขาก็มีหมกก้านเต่อนี้ขายด้วย ตอนนั้นด้วยความหิวก็เลยลองชิมไปหลายคำ โดยส่วนตัวผมแล้วผมว่ามันออกแข็งๆ และไม่ค่อยอร่อยนัก แต่ถึงอย่างไร หมกตะขาบน้ำก็เป็นอาหารจานเด็ดของชาวซำเหนือที่จะเอาอะไรมาแลกก็ไม่ยอม แม้กระทั้งคนเวียงจันทน์ที่เคยกินตะขาบน้ำแบบนี้ก็ยังติดอกติดใจ และแสวงหาโอกาสจะได้มาชิมของออริจินอลที่ซำเหนือ แสดงว่าตะขาบน้ำนี้ดังเอาการอยู่เหมือนกัน ตลาดซำเหนือเป็นตลาดที่ผมยกให้เป็นอันดับหนึ่งของตลาดที่มีสีสันที่สุดเท่าที่ผมท่องเที่ยวมาเลยครับ สาเหตุที่ยกให้เป็นอันดับหนึ่งนั้นมีสองอย่างคือ อย่างแรกชาวบ้านที่มาขายของจะเป็นมิตรกับเราอย่างที่สุด ยิ้มแย้มแจ่มใสกันทุกคน เด็กๆชอบอายเวลาเราผ่านไปและขอถ่ายรูป บางคนวิ่งหนีไปเลย อย่างที่สองคือของที่ขายในตลาดซำเหนือช่างมีสีสันเหลือเกิน มีหลายอย่างที่ผมพึ่งมาพบเจอครั้งแรกในชีวิต ส่วนเหตุผลอื่นๆก็คือทุกอย่างยังคงเป็นแบบบ้านๆ ที่ไม่มีสิ่งแปลกปลอมจากภายนอกเข้ามาเจือปนเลย ตลาดซำเหนือตั้งอยู่ริมแม่น้ำซำเป็นตลาดยาวเรียบแม่น้ำ มีการแบ่งโซนของของจากชาวบ้าน โซนขายประจำ โซนขายฝัก และโซนขายไก่ เป็ดและหมูเป็นตัวๆ ตลาดซำเหนือหากเป็นการขายผักและผลไม้จะใช้ตาชั่งจีนโบราณชั่ง กิโลตราชั่งแบบสมัยใหม่ก็มีอยู่บ้างแต่ไม่เป็นที่นิยมกัน ตลาดซำเหนือที่ผมไปเดินนั้นเป็นช่วงเย็นครับ ที่ซำเหนือเขามีอาหารอีกอย่างที่ขึ้นชื่อคือไส้กรอกซำเหนือ ที่ตลาดจะมีคนทำมาขายเป็นสิบๆเจ้านั่งเรียงกันเป็นแถว ผมแนะนำให้ลองชิมให้ได้ ซื้อออกมาเลยครับแล้วให้ทางร้านเขาทอดให้ อร่อยแน่นอนหากินยากด้วย มาถึงซำเหนือต้องกินไส้กรอกซำเหนือให้ได้ ตลาดซำเหนือจะมีร้านขายเฝออยู่ร้านนึง ผมว่าเป็นเฝอที่ราคาถูกที่สุดของประเทศลาวแล้ว ปกติเฝอจะขายกันชามละ…

Read More



เดินเล่นเมืองซำเหนือ แขวงหัวพัน

ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเล 1,200 เมตร แม่น้ำซำไหลผ่านเมือง ทำให้ซำเหนือเป็นเมืองที่อากาศดีตลอดทั้งปี ผมเดินทางมาซำเหนือกลางเดือน พ.ค. อากาศไม่ร้อน ตกกลางคืนอากาศถึงขั้นหนาวต้องห่มผ้านวมช่วย เมืองซำเหนือที่ผมเดินทางมาถึงวันนี้ เป็นเมืองใหม่ที่ย้ายมาจากเมืองเวียงไชยไม่กี่ปี คนจึงไม่มีอาศัยอยู่มากนัก ประชาชนของซำเหนือส่วนใหญ่เป็นชาวลาวลุ่ม และมีชาวม้งรองลงมา ส่วนที่เหลือเป็นไทยดำ ไทยแดงซึ่งมีไม่มากนัก ซำเหนือมีร้านอินเตอร์เน็ตสองร้าน ร้านที่อยู่ข้างๆโรงเรียนเปิดตั้งแต่เช้าถึงเย็น ส่วนอีกร้านตั้งใหม่อยู่แถวๆ แก้วฮักเมือง เปิดช่วงเย็นถึงสามทุ่ม ที่ซำเหนือมีธนาคาร Lao Development Bank มีเครื่อง ATM เครื่องแรกของเมือง ตอนที่ผมเดินทางมาถึงกำลังติดตั้งพอดี ซำเหนือเมืองเล็กๆ เดินเดี๋ยวเดียวก็ทั่วเมืองแล้ว จะไปไหนถามพี่น้องชาวลาวได้ เขายินดีบริการเราเต็มที่ หรือจะเดินไปสอบถามการท่องเที่ยวลาวที่อยู่ตรงข้ามธนาคารก็ได้ เขามีคนบริการตอบและมีแผ่นพับให้ฟรี(08.00-12.00 และ 13.30-16.00 น.) “แก้วฮักเมือง” เป็นสัญลักษณ์ของเมืองซำเหนือ สร้างขึ้นเป็นพิเศษสำหรับเมืองที่เคยเป็นที่อยู่ของท่านผู้นำของลาว ช่วงที่ต่อสู่กับอเมริกา แก้วฮักเมือง หรือแก้วหลักเมือง เปิดอย่างเป็นทางการวันที่ 17 พ.ค. 2551 (ผมมีรูปวันที่ทำพิธีเปิดด้วยอยู่ด้านล่างๆครับ) รูปแบบแก้วฮักเมืองเป็นเสาร์สี่ต้นค้ำลูกแก้วขึ้นไปอยู่ด้านบน บริเวณแก้วฮักเมืองมีงานปฏิมากรรมฝาผนัง เป็นรูปทหารในช่วงต่อสู่กับอเมริกา มีน้ำพุและไฟใต้น้ำด้วย แต่ช่วงผมไปไม่ได้เปิดไม่รู้ว่าเสียหรือเปล่า บริเวณแก้วหลักเมืองนี้เป็นจุดศูนย์กลางวัยรุ่นที่จะมานั่งเล่นพบปะกันช่วงกลางคืน จุดเด่นของซำเหนือที่หนังสือโลนลี่พลาเน็ทแนะนำคือตลาดริมน้ำซำ ซึ่งเป็นมนเสน่ห์ของซำเหนือ ผมเห็นด้วยอย่างยิ่งตลาดนี้ผมยกให้เป็นอันดับหนึ่ง ตั้งแต่ผมเดินตลาดสดมาทั่วลาวตลาดซำเหนือประทับใจที่สุด…

Read More